ฟิลเลอร์คางเชียงใหม่
ฟิลเลอร์คางเชียงใหม่ ฟิลเลอร์ คือ สารเติมเต็มประเภท Hyaluronic Acid (HA) ที่จะเข้าไปช่วยเติมเต็มชั้นผิวที่มีการยุบตัวลง ให้กระชับ อวบอิ่มขึ้น และช่วยแก้ไขปัญหาผิว ริ้วรอยร่องลึก บริเวณต่างๆ ของใบหน้า ให้กลับมาดูเต่งตึง อ่อนเยาว์ลง และฟิลเลอร์จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ทำให้ผิวเปล่งปลั่ง ลดการเกิดริ้วรอย ใบหน้าได้สัดส่วนมากขึ้น การฉีดฟิลเลอร์ สามารถช่วยปรับรูปหน้า แก้ไขจุดบกพร่องบนใบหน้าได้อย่างรวดเร็ว และไม่มีอาการบวมแดงหลังการฉีด สามารถเห็นความเปลี่ยนแปลงได้ทันทีและดูเป็นธรรมชาติ
ฉีดฟิลเลอร์คางคืออะไร?
การฉีดฟิลเลอร์คาง (Chin Filler) คือ การฉีดสารเติมเต็มมิติของผิวที่ชื่อว่า “สารไฮยาลูรอนิค แอซิด (Hyaluronic Acid)” หรือเรียกกันสั้นๆ ว่า “สารฟิลเลอร์” ลงไปใต้ผิวบริเวณคาง เพื่อเปลี่ยนแปลงขนาดและมิติของผิวบริเวณดังกล่าวให้ดูมีเนื้อหนา และมีรูปร่างเข้ากับโครงสร้างใบหน้า ปรับโหงวเฮ้งให้ดีขึ้น ทำให้ใบหน้าโดยรวมดูดีมากขึ้น
ฉีดฟิลเลอร์คางเหมาะกับใคร?
- ผู้ที่อยากเสริมรูปคางให้ดูมีมิติสวยงาม แต่ไม่อยากพึ่งพาวิธีการผ่าตัดเสริมคาง หรือไม่มีเวลาพักฟื้น
- ผู้ที่มีปัญหาคางบุ๋ม
- ผู้ที่มีปัญหาคางสั้น
- ผู้ที่อยากให้ใบหน้าโดยรวมดูเรียวยาวขึ้น หรือเป็นวีเชป
- ผู้ที่มีปัญหารูปกรามกว้าง กรามใหญ่ สามารถปรับมิติของคางเพื่ออำพรางขนาดของใบหน้าในส่วนนี้ได้
- ผู้ที่อยากปรับเปลี่ยนโหงวเฮ้งของใบหน้าให้ดีขึ้น
ฉีดฟีลเลอร์คางของแท้ดูอย่างไร
1. เลข Lot. ไม่ว่าจะบริเวณกล่อง สติ๊กเกอร์ ซอง หลอด ของยี่ห้อฟิลเลอร์ที่ใช้ต้องตรงกันทุกบริเวณ ที่สำคัญสามารถเช็กเลข Lot. กับบริษัทที่เป็นผู้นำเข้าจัดจำหน่ายได้
2. มีเลขทะเบียนอย. และเอกสารภาษาไทยกำกับ
3. นอกจากนั้นยังสามารถสังเกตได้จาก Sticker โฮโลแกรมสำหรับฟิลเลอร์บางยี่ห้อ
4. กล่องฟิลเลอร์ต้องยังไม่ผ่านการแกะ และต้องมีการปิดผนึกไว้เสมอ
สามารถเช็กรายชื่อคลินิกที่ใช้ฟิลเลอร์ได้กับบริษัทที่เป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่าย
ฉีดฟิลเลอร์คางอยู่ได้กี่เดือน?
โดยปกติแล้วผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์คางในแต่ละยี่ห้อสามารถอยู่ได้นานประมาณ 12-18 เดือน ซึ่งทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ด้วย เพราะหากมีการใช้ชีวิตประจำวันที่มีส่วนทำให้ฟิลเลอร์สลายออกจากร่างกายได้เร็วมากขึ้น เช่น การเลเซอร์บริเวณใบหน้า การสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ เป็นต้น Lanna
ข้อดีของฟิลเลอร์คาง
1. การฉีดคางเรียว ไม่ใช่การผ่าตัด ทำให้เห็นผลหลังทำได้ทันที
2. หลังฉีดฟิลเลอร์คาง ไม่ต้องพักฟื้น สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติทันที
3. การฉีดฟิลเลอร์คาง ช่วยปรับแต่งใบหน้าให้เข้ารูป ช่วยเพิ่มความมั่นใจ
4. ฟิลเลอร์คาง เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการเพิ่มความสวยให้กับรูปคางตามแบบฉบับ “Golden Ratio” โดยไม่ต้องผ่าตัด
5. หากฉีดฟิลเลอร์ที่ได้มาตรฐาน คางจะดูเป็นธรรมชาติ ไม่มีปัญหาคางย้อยผิดรูป
6. ฟิลเลอร์ เป็นสาร Hyaluronic Acid หรือ HA สลายได้เองตามธรรมชาติ ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย
เปรียบเทียบการฉีดฟิลเลอร์คางกับการผ่าตัดเสริมคาง
การฉีดฟิลเลอร์คาง : เป็นการปรับแต่งใบหน้าให้เข้ารูปได้โดยไม่ต้องผ่าตัด ใช้เวลาน้อย ทำให้ไม่มีแผล ไม่ต้องพักฟื้น หลังฉีดฟิลเลอร์คางจะเห็นผลลัพธ์ได้ทันที ไม่บวมช้ำ สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ ซึ่งการฉีดคางเรียวด้วยฟิลเลอร์ตอบโจทย์คนที่อยากมีคางสวยแต่ไม่อยากผ่าตัดใหญ่
การผ่าตัดเสริมคาง : เป็นการเปลี่ยนรูปคางแบบถาวรโดยการผ่าตัด ใช้เวลามากกว่า มีกระบวนการที่เสี่ยงกว่าและทำได้ยากกว่า ต้องปรึกษาแพทย์และอยู่ในความดูแลแพทย์อย่างใกล้ชิด หลังผ่าตัดต้องใช้เวลาพักฟื้นและต้องดูแลแผลอย่างถูกต้อง หากทำมาแล้วไม่ชอบจะแก้ไขรูปทรงได้ยากกว่าการฉีดฟิลเลอร์คาง
ฉีดฟิลเลอร์แต่ละบริเวณใช้กี่ CC
- ใต้ตา 1-3 CC
- คาง 1-3 CC
- ร่องแก้ม 2-4 CC
- จมูก 1 CC
- หน้าผาก 4-6 CC
- ปาก 1-2 CC
- ขมับ 1-3 CC
- แก้มตอบ 1-2 CC
- แก้มส้ม 1-2 CC
อาการแพ้อาการแพ้ฟิลเลอร์เป็นอย่างไร ?
เป็นการแพ้สารบางชนิดในฟิลเลอร์ โดยจะมีอาการแพ้อยู่ 2 รูปแบบ
1.ลมพิษแบบรุนแรง (Angioedema) อาการแพ้จะแสดงให้เห็นลมพิษขึ้นมาอย่างรุนแรง
2.อาการแพ้ฟิลเลอร์ (Delay Hypersensitivity) อาการแพ้ฟิลเลอร์ชนิดนี้จะแสดงให้เห็นเป็นก้อนบวม นูนแดง อักเสบ ซึ่งอาการแพ้นี้บางครั้งมักเกิดภายหลังการฉีดฟิลเลอร์ภายในระยะเวลา 6 เดือนหลังจากฉีดฟิลเลอร์ไปแล้ว โดยเบื้องต้นสามารถทานยาฆ่าเชื้อ เพื่อบรรเทาอาการบวมได้ แต่ถ้าหากรุนแรงมากอาจต้องเข้ามาพบแพทย์เพื่อทำการฉีดสลายฟิลเลอร์
ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์คาง (Filler)
1. ให้แพทย์ประเมินก่อนการฉีด เพื่อแก้ไขปัญหาให้ตรงจุด และผลลัพธ์ที่ดี
2. แพทย์แนะนำยี่ห้อฟิลเลอร์และปริมาณที่เหมาะสม ในการฉีดแต่ละจุด และแกะกล่องฟิลเลอร์ให้ดูต่อหน้า สามารถให้คนไข้เช็คกล่องได้ว่าเป็นของแท้
3. ทำความสะอาดใบหน้า คลีนหน้าให้สะอาดก่อนฉีด คนไข้ที่แต่งหน้ามาก็จะต้องทำการเช็ดเครื่องสำอางออกก่อน
4. ทำการแปะยาชาให้ สำหรับคนไข้ที่กลัวเจ็บ
5. ในขณะฉีดจะมีการประคบเย็นให้ตลอด เพื่อลดความเจ็บจากการฉีด
6. เมื่อฉีดฟิลเลอร์เสร็จแล้ว แพทย์จะแนะนำวิธีดูแลตัวเองต่าง ๆ และวิธีปฏิบัติตัวหลังการฉีด เพื่อให้ฟิลเลอร์เข้าที่ไว และอยู่ได้นานขึ้น
ควรเตรียมตัวอย่างไรก่อนฉีด ?
1. อย่าลืมงดยาและอาหารเสริมบางประเภท โดยเฉพาะยาในกลุ่มยา บรรเทาปวด NSAIDs เช่น Ibuprofen Aspirin เพราะอาจทำให้เกิดอาการบวม หรือรอยช้ำบริเวณตำแหน่งที่ฉีดฟิลเลอร์ได้ รวมถึงอาหารเสริมบางประเภท เช่น วิตามินอี แปะก๊วย น้ำมันปลา ซึ่งอาจมีผลทำให้แผลช้ำ เลือดหยุดไหลช้า
2. ต้องแน่ใจว่าคุณไม่มีอาการแพ้สารตัวนี้ และตรวจสอบให้มั่นใจว่า สาร Hyaluronic acidที่ฉีดเข้าไปนั้นได้รับมาตรฐานและผ่านการรับรองจาก สถาบันทางการแพทย์หรือมาตรฐานทางสาธารณสุข ที่เชื่อถือได้
3. คุณอยู่ในช่วงตั้งครรภ์ให้นมบุตร หรือกำลังรับยาต้านการแข็งตัว ของเลือดหรือไม่? ถ้าใช่ ไม่ควรฉีด เพราะอาจส่งผลข้างเคียงได้ค่ะ
4. หากคุณเป็นคนที่เกิดแผลนูนหรือคีรอยด์ ได้ง่าย ให้ทดลองทำส่วนอื่น ก่อนที่ไม่ใช่ใบหน้าหรือในบริเวณที่เห็นได้ชัด MEDA
ข้อควรปฏิบัติหลังจากการฉีดฟิลเลอร์
1. ใน 12 ชั่วโมงแรก อย่าแต่งหน้าหรือใช้ครีมบำรุงผิวทันทีหลังฉีด หากฉีดที่ริมฝีปาก ให้งดการใช้หลอดดูด งดสูบบุหรี่ และอย่าทาลิปสติกทันทีรวมถึงหลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางและครีมบำรุงผิว
2. งดการออกกำลังกายหนักๆ หรือกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออกมาก รวมถึงการสัมผัสโดนความร้อน เชน ซาวน่า การออกแดดจัดอาจทำให้การฉีด ไมได้ผลดีเท่าที่ควรและทำใหฟิลเลอรเสื่อมสภาพเร็วขึ้น
3. ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยยืดอายุการฉีดฟิลเลอร์ได้หลังจาก 48 ชั่วโมง คุณอาจเลือกใช้ผลิตภัณฑ์เวชสำอางที่มี Hyaluronic Acid โมเลกุลขนาดเล็ก ที่ผ่านการทดสอบแล้วว่าปลอดภัยและช่วยยืดประสิทธิภาพของฟิลเลอร์ ได้นานขึ้นด้วย
4. ดื่มน้ำเปล่าปริมาณมากกว่าปกติเล็กน้อย ในช่วง2-3วันแรก เพื่อให้ฟิลเลอร์อุ้มน้ำฟูขึ้น
5. หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือของหมักดองเพราะอาจเกิดอาการอักเสบได้
6. งดกดนวดบริเวณตรงจุดที่ทำการฉีดฟิลเลอร์
7. หลีกเลี่ยงการแกะเกา อาการจะค่อยๆดีขึ้นหลัง3วัน หากอาการดังกล่าวยังเป็นมากขึ้น ให้ติดต่อคลินิกเพื่อมารับยาเพิ่ม
About us
ดูแลโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
ผ่านการอบรมและมีใบรับรองจากหลายสถาบัน
- Fellow in dermato surgery & LASER รามาธิบดี .
- Vissiting fellow dermatology Juntendo Dermatology & Dermatopathology.
- MD.Msc.Phd in Dermatology / LASER / Aesthetic Surgery.
- Fellow in LASER surgey and Facial plastic surgery Fort Lauaderdel Florida USA
- Diploma of Hair Transplantation by Thai association and Academy of Cosmetic surgery and medicine
- Fellowship in Cosmetic Surgery/ Korean college of Cosmetic Surgery
- American Board of Hair Restoration Surgery/ABHRS
- Certificate Hair transplantation By Korean Society of Hair Restoration Surgery/ISHRS
- Member in association of Aesthetic Anti-aging Surgery,Thailand
- Certificate Liposuction by Korean college of Cosmetic Surgery
- Member of International Society of Hair Restoration Surgery