ผ่าตัดดึงหน้า เชียงใหม่
ผ่าตัดดึงหน้า เชียงใหม่ รอยแผลเล็ก ไร้รอยแผลเป็น ผ่าตัดดึงหน้าเชียงใหม่ (Mini Face Lift)
การผ่าตัดดึงหน้า ช่วยลดปัญหาการหย่อนคล้อยและริ้วรอยบนใบหน้าให้กลับมาเป็นสาวอีกครั้ง ช่วยให้ใบหน้าดูเต่งตึง ดูอ่อนวัย โดยวิธีการยกกระชับใบหน้าเพื่อลดริ้วรอยแห่งวัย ศัลยกรรมดึงผิวหน้าแผลเล็ก คุ้มสุดคุ้ม
” ปัญหาการเหี่ยวย่นของผิวหนัง ” มิอาจมีใครที่จะสามารถหลีกหนีปัญหานี้ไปได้ โดยเมื่อคนเรามีอายุมากขึ้น ก็จะเกิดการหย่อนคล้อยของผิวหนังบริเวณใบหน้าและลำคอเป็นปกติโดยทั่วไปอยู่แล้ว ทำให้ใบหน้าที่เคยเรียบตึงมีส่วนเว้าส่วนโค้งที่สวยงามก็จะดูหย่อนคล้อยไม่เรียบตึงเหมือนเดิม โดยจะเกิดขึ้นกับผิวหนังทุกชั้น
โดยส่วนใหญ่จะเริ่มเกิดอาการเหล่านี้ เมื่ออายุย่างเข้า 30 ปีเป็นต้นไป ดังนั้นทางการแพทย์ศัลยกรรมตกแต่ง จึงมีวิธีการแก้ปัญหาข้างต้น โดยวิธีที่ได้รับความนิยมนั่นคือ การผ่าตัดดึงหน้า อยู่ในประเภทของการผ่าตัดศัลยกรรมชะลอวัย โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุมากขึ้น ผิวหนังจะเกิดอาการหย่อนคล้อยตามวัย หรืออาการเหล่านี้ เช่น มีแก้มตก, ริ้วรอยมุมปาก, หรือถุงแก้มห้อยลงจนเห็นได้ชัด
ผ่าตัดดึงหน้า คืออะไร
ผ่าตัดดึงหน้า เมด้าคลินิก
ผ่าตัดดึงส่วนไหน แก้ปัญหาอะไรบ้าง
- ดึงหน้าผาก (Forehead Lift) – เหมาะสำหรับผู้ที่มีหัวคิ้วย่น มีรอยย่นบนหน้าผาก หางตาตก และคิ้วต่ำลงมา จนรบกวนการมองเห็น ต้องเลิกคิ้วในการมองอยู่ตลอด โดยปกติหน้าผากเราจะมีกล้ามเนื้อใต้ผิวหนัง เมื่อเลิกคิ้วเป็นเวลานาน จึงทำให้เกิดริ้วรอยดังกล่าว
- ดึงใบหน้าส่วนบนและหางตา (Upper Facelift/Temporal Lift) – การดึงใบหน้าส่วนนี้ สำหรับผู้ที่เริ่มมีปัญหาหางตาตก ตาเศร้า โหนกแก้มเริ่มหย่อนคล้อย ในส่วนนี้ จะทำให้ใบหน้าดูยกขึ้น รอยตีนกาและริ้วรอยบริเวณหางตาลดลง ใบหน้าส่วนบนก็จะตึงและดูกระชับขึ้น
- ดึงใบหน้าส่วนกลางเเละส่วนล่าง (Lower Facelift) – แก้ไขปัญหาร่องแก้มที่ลึกให้จางลง แก้ไขร่องน้ำหมาก ทำให้ใบหน้าส่วนล่างตึงและถูกยกขึ้น ให้ใบหน้าเรียวเป็น V-shape
- ดึงคอ (Neck Lift) – ทำให้ลำคอตึงขึ้น ลดความหย่อนคล้อย ลดเหนียงบริเวณคอ เพื่อให้เข้ากับส่วนของใบหน้าที่อ่อนวัยลง
ทำไมต้องผ่าตัดดึงหน้า
โดยเมื่อเวลาอายุมากขึ้นผิวหนังและส่วนต่างๆ บริเวณใบหน้าจะมีการเปลี่ยนแปลงและโรยราตามอายุ โดยอาจแบ่งได้ 4 ส่วน ของใบหน้าดังนี้
- บริเวณหน้าผากและคิ้ว จะมีรอยย่นชัดเจนมากขึ้น และคิ้วทั้งสองข้างจะตกลงมาต่ำกว่าปกติ ทำให้หนังตาบนย้อยลงมาปิดขนตา โดยนอกเหนือจากการเหี่ยวย่นตามอายุแล้ว การทำสีหน้าเครียด การบีบ กดหน้าจนเคยชิน ก็อาจทำให้เกิดริ้วรอยบนใบหน้าด้วย
- บริเวณรอบดวงตาและแก้มจะมีหนังตาหย่อนทั้งบนและล่าง หนังตาล่างก็จะมีบวมจากไขมัน และมีรอยย่นตีนกาบริเวณด้านข้างของตา โดยรอยตีนกาเป็นปัญหาเป็นอย่างมากสำหรับผู้หญิง
- บริเวณคางและแก้มส่วนล่าง โดยเฉพาะตรงบริเวณทางด้านข้างจะมีผิวหนังย้อยลงมาเลยขอบกระดูกของขากรรไกรล่าง และจะมีผิวหนังส่วนเกินบริเวณข้างมุมปากชัดเจนขึ้น และใต้คางจะมีผิวหนังและไขมันย้อย
- ผิวหนังบริเวณลำคออาจย่น เป็นสัน หรือเกิดเหนียง
การผ่าตัดดึงหน้า มีวัตถุประสงค์เพื่อแก้ไขการหย่อนยานของผิวหนังบริเวณใบหน้าและลำคอรวมถึงเนื้อเยื่ออ่อนที่อยู่ภายในโดยเข้าไปยกกระชับเนื้อเยื่อที่อยู่ภายในรวมถึงอาจมีการตัดผิวหนังที่หย่อนยานออก ทำให้ใบหน้าดูกระชับ และเรียบตึงขึ้น ดูอ่อนกว่าวัย
ผู้ที่เหมาะกับการผ่าตัดดึงหน้า
- ผู้ที่มีปัญหาหรือต้องการปรับโครงสร้างใบหน้าให้ดูอ่อนเยาว์ ลดริ้วรอยและความหย่อนคล้อย
- ไม่จำกัดอายุ พิจารณาตามสภาพผิวและความหย่อนคล้อยของใบหน้า และความต้องการของผู้เข้ารับการผ่าตัด
- น้ำหนักอยู่ในเกณฑ์ปกติ หากต้องการลดน้ำหนัก ควรลดน้ำหนักให้ได้ตามที่ต้องการก่อนการผ่าตัด
- ไม่มีโรคประจำตัวที่เป็นข้อห้ามในการผ่าตัด เช่น โรคที่มีความผิดปกติของการแข็งตัวของเลือด (Hemophilia) โรคที่มีความผิดปกติของการหายของแผล (Ehlers-Danlos Syndrome) เป็นต้น
- ไม่ได้กำลังตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร
การเตรียมความพร้อมก่อนผ่าตัดดึงหน้า
- พบแพทย์เพื่อปรึกษาแนวทาง ทำความเข้าใจ และวางแผนการผ่าตัด
- ตรวจสุขภาพความพร้อมร่างกายคนไข้
- งดยาแอสไพริน ก่อนผ่าตัดเพื่อป้องกันเลือดหยุดยาก งดสูบหรี่ก่อนผ่าตัด 2 อาทิตย์ และหลังผ่าตัด 1-2 อาทิตย์ด้วย เพราะการสูบบุหรี่จะทำให้เลือดไปเลี้ยงที่ผิวหนังไม่ดี จะทำให้แผลสมานกันได้ช้า
การดูแลตัวเองหลังทำผ่าตัดดึงหน้า
หลังผ่าตัดจะทำให้ใบหน้าเกิดอาการบวมและมีรอยช้ำประมาณ 1-2 สัปดาห์ แต่คนไข้สามารถล้างหน้า สระผม แปรงฟัน ได้ตามปกติ ในวันรุ่งขึ้นหลังการผ่าตัด และจะมีการตัดไหมประมาณ 5-7 วันหลังผ่าตัด โดยทั่วไปใบหน้าจะกลับสู่สภาพปกติระหว่าง 1-3 เดือน ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าวแพทย์จะนัดผู้ป่วยมาเช็คเป็นระยะๆ ในช่วงที่มีบวมของใบหน้า ส่วนต่างๆ ของใบหน้าอาจจะยังดูไม่เท่ากัน แต่ทุกอย่อางจะกลับสู่ปกติเมื่อยุบบวมแล้ว โดยทั่วไปผู้ป่วยควรจะพักอยู่ภายในบ้านในสัปดาห์แรกหลังผ่าตัด และควรพักอยู่กับที่หรืออยู่บ้านของคนไข้เอง 1-3 วันหลังการผ่าตัด
หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด อาหารแสลง อาหารหมักดอง เพื่อให้บาดแผลผ่าตัดนั้นฟื้นฟูตัวเองได้ไวขึ้น ดูแลรักษาบาดแผลให้แห้งและสะอาดอยู่ตลอดเวลา โดยหลังจากผ่าตัดทางทีมแพทย์จะนัดเข้ามาทำความสะอาดแผล และตรวจติดตามผลหลังการผ่าตัดเป็นระยะๆ และจะนัดเข้ามาตัดไหมหลังจากผ่าตัดไปแล้วอยู่ที่ 1-2 สัปดาห์
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น การเวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน มักจะเป็นผลมาจากการใช้ยาให้หลับหรือยาสลบ ในช่วงวันสองวันแรก อาจจะมีบริเวณใต้ผิวหนังซึ่งมีเลือดค้างอยู่ มักจะดีขึ้นเอง มีบางรายที่อาจต้องดูดออก อาจจะมีกล้ามเนื้อบางส่วนของใบหน้ายังทำงานไม่ได้ปกติ เช่น เวลายิ้ม หรือยักคิ้ว อาจจะไม่เท่ากัน มักจะดีขึ้นเองเมื่อเส้นประสาทและกล้ามเนื้อหายช้ำประมาณ 1-2 เดือน หลังผ่าตัด นอกจากนี้จะมีแผลเป็นบริเวณหลังหูอยู่นานหรือนูนได้ ซึ่งสามารถรักษาได้โดยการทายาหรือฉีดยาเฉพาะที่ ส่วนในบริเวณผมอาจจะมีผมร่วงบริเวณผ่าตัดได้ แต่มักจะงอกขึ้นมาใหม่ในระยะ 2-3 เดือนหลังผ่าตัด
About us
ดูแลโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
ผ่านการอบรมและมีใบรับรองจากหลายสถาบัน
- Fellow in dermato surgery & LASER รามาธิบดี .
- Vissiting fellow dermatology Juntendo Dermatology & Dermatopathology.
- MD.Msc.Phd in Dermatology / LASER / Aesthetic Surgery.
- Fellow in LASER surgey and Facial plastic surgery Fort Lauaderdel Florida USA
- Diploma of Hair Transplantation by Thai association and Academy of Cosmetic surgery and medicine
- Fellowship in Cosmetic Surgery/ Korean college of Cosmetic Surgery
- American Board of Hair Restoration Surgery/ABHRS
- Certificate Hair transplantation By Korean Society of Hair Restoration Surgery/ISHRS
- Member in association of Aesthetic Anti-aging Surgery,Thailand
- Certificate Liposuction by Korean college of Cosmetic Surgery
- Member of International Society of Hair Restoration Surgery