ปลูกผม ที่ เมด้าคลินิก
ปัญหา ผมร่วง ผมบาง หรือ ศีรษะล้าน ไม่ได้เกิดเฉพาะในคนที่มีอายุมาก ในคนหนุ่มสาวที่อายุน้อยก็สามารถเกิดได้ ซึ่งไม่ว่าจะเกิดขึ้นในวัยไหน อายุเท่าใด ก็สร้างความกังวลใจให้อย่างยิ่ง หากเป็นในคนที่อายุมากแล้วผมบางลงเรื่อย ๆ จนศีรษะเริ่มล้านจะทำให้บุคลิกดูไม่ภูมิฐาน ดูแก่กว่าอายุจริง หากเกิดตั้งแต่อายุยังน้อย เช่น อายุแค่ยี่สิบต้นๆ ก็เริ่มหัวเถิก ก็จะดูแก่เกินวัยกว่าเพื่อนพ้องในวัยเดียวกัน บั่นทอนความมั่นใจในการแต่งตัวหรือเข้าสังคมได้
ปลูกผม แก้ปัญหาผมร่วง (Alopecia) ผมบาง ศีรษะล้าน
ผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้าน คือปัญหาที่คนไข้มักมาจะมาปรึกษากับแพทย์บ่อยๆ โดยเฉพาะปัญหาศีรษะล้านอันเนื่องมาจากฮอร์โมนเพศ ( Androgenetic alopecia) ที่พบได้ทั้งชายและหญิง การรักษาผมบางศีรษะล้านที่นิยมใช้ในปัจจุบันแบ่งเป็นสองแบบใหญ่ๆคือการรักษาโดยการใช้ยา ( Medication ) และการรักษาโดยการผ่าตัดปลูกถ่ายเส้นผมหรือการปลูกผม ( Hair transplant )
ปลูกผม คืออะไร?
ปลูกผม ปัญหาผมร่วง ศีรษะล้าน นั้นมีการแก้ไขหลายวิธีตั้งแต่การใส่วิตามิน เพื่อกระตุ้นให้ผมงอกขึ้นมาระดับหนึ่งไปจนถึงการปลูกผม ปัจจุบันวิธีที่แก้ปัญหาศีรษะล้านที่ได้ผลดีและใกล้เคียงที่สุด คือการนำเซลล์รากผมที่แข็งแรงบริเวณท้ายทอยย้ายมาไว้บริเวณที่มีปัญหา การปลูกผมวิธีนี้คนไข้ไม่จำเป็นต้องพักฟื้น ข้อดีของวิธีนี้คือเส้นผมใหม่คือเส้นผมจริงของคนไข้ทำให้ดูเป็นธรรมชาติ เป็นผมซึ่งเกิดจากเซลล์รากผมที่แข็งแรงและเมื่อร่วงไปแล้วก็กลับขึ้นใหม่ได้อีก สามารถกลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างมั่นใจเช่นการว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน ฯลฯ และหลังได้รับการปลูกย้ายเซลล์ผมแล้วจะไม่มีค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษา สามารถสระผม ตัดผม ย้อมผม ฯลฯ ได้เอง หรือตามร้านตัดผมทั่วๆไปได้ LANNA
การศัลยกรรมปลูกผมด้วยเทคนิค Follicular Unit Extraction (FUE)
เทคนิคการปลูกผม Follicular Unit Extraction (FUE) คืออะไร?
เทคนิคการปลูกผม Follicular Unit Extraction (FUE)เป็นนวัตกรรมการ ปลูกผม ผลลัพธ์ที่ได้คือธรรมชาติ สวย และเทคนิคการปลูกผมแบบ FUE ก็ได้รับการยืนยันจากศัลยแพทย์เทคนิค FUE จากประเทศสหรัฐอเมริกาว่าพื้นที่ปลูกผมใหม่ด้วยเทคนิคการปลูกผมแบบ FUE นั้นแข็งแรง ไม่มีการเสื่อมสภาพ เทคนิคการปลูกผมแบบ FUE เป็นนวัตกรรมการย้ายเซลล์รากผม โดยวิธีการเจาะเอาเซลล์รากผมมาปลูกถ่ายในบริเวณที่ไม่มีผมที่ต้องการรักษา โดยที่แพทย์ไม่จำเป็นต้องเราะตัดหนังศีรษะของคนไข้ออกมาเป็นชิ้นยาว เหมือนวิธีการปลูกผมแบบวิธีอื่นๆ
ขั้นตอนและวิธีการรักษาเทคนิค FUE
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะทำการฉีดยาชา หรือให้คนไข้ทานยานอนหลับแบบอ่อนๆ และแพทย์ถึงจะเริ่มทำการรักษาปลูกผมใหม่ด้วยเทคนิค FUE โดยการใช้เครื่องมือพิเศษหัวเจาะ ( Punch )
ที่มีหัวขนาดเล็ก 0.8-1.2 มิลลิเมตร เจาะตรงบริเวณพื้นหนังศีรษะรอบกอผมที่กำหนด ลึกลงรากผม โดยเลือกใช้เซลล์ผมบริเวณด้านหลังศีรษะ ดึงกอผมที่มีความแข็งแรงเหล่านั้นออกมา และแพทย์จะทำการเจาะเปิดแผลเล็กๆ ขนาด 1-1.5 มิลิลิเมตร บริเวณศีรษะที่ต้องการปลูกผมใหม่ แล้วคำนวณกราฟ (เซลล์รากผม) แทนที่ คล้ายการย้ายเซลล์รากผมมาแทนที่สลับตำแหน่ง
ขั้นตอนต่างๆ ในการปลูกผมต้องใช้ความละเอียดประณีตและความชำนาญเฉพาะทางของแพทย์อย่างมากเพราะว่าหากแพทย์ไม่ชำนาญเจาะ อาจทำให้เซลล์รากผมหลุดขาดได้ นอกจากจะเกิดปัญหาต่อเซลล์รากผมแล้ว อาจจะส่งผลถึงการปลูกผมใหม่ที่ไม่เป็นธรรมชาติ และผลเสียในระยะเวลาการรักษา
ถึงแม้ว่าวิธีนี้จะเป็นการนำเครื่องมือ (Robot) เข้ามาช่วยเก็บกราฟที่แสดงผลออกมาก็จริง แต่ทุกขั้นตอนกลไกของการทำงานต้องผ่านมือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทั้งสิ้น ซึ่งนั้นก็หมายถึงหัวใจของวิธีการนี้คือแพทย์ผู้ทำการรักษาและทีมผู้ช่วยทีมีความชำนาญ การปลูกผมเทคนิค FUE ได้แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ
1. รักษาโดยแพทย์ผู้ชำนาญเฉพาะทาง
2. รักษาโดยหุ่นยนต์ ( Robot ) หรือ ใช้เทคนิคผสมผสาน
ซึ่งเป็นที่แน่นอนว่าผลลัพธ์และความแตกต่างขึ้นอยู่ที่ผู้ควบคุมดูแลการรักษาเป็นหลัก เทคนิคการปลูกผม FUE จำเป็นต้องใช้ความละเอียดรอบคอบและแม่นยำ หลังจากทำการปลูกผมด้วยเทคนิค FUE คนไข้ไม่ควรสัมผัสแผล ซับแผล หรือทำการสระผม รวมทั้งห้ามให้แผลถูกน้ำบริเวณที่ได้ทำการปลูกผมด้วยเทคนิค FUE เป็นระยะเวลา 24 ชั่วโมง
ข้อดีของการปลูกผม ด้วยเทคนิค FUE
1. ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น
2. ไม่มีรอยแผลเป็นขนาดใหญ่
3. หลังปลูกผมหนังศีรษะไม่ตึง ไม่เจ็บ เลือดออกน้อย
4. เส้นผมที่ปลูกใหม่มีอัตราการเกิดขึ้นสูง
5. หลังจากปลูกผมแล้วไม่ต้องพักฟื้น สามารถกลับบ้านไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
ปลูกผมเหมาะกับใคร?
1.ผู้ที่มีปัญหาผมร่วง ผมบาง ศีรษะเถิก และศีรษะล้านจากกรรมพันธุ์
2.ผู้ที่มีปัญหาผมร่วง ผมบาง ศีรษะเถิก และศีรษะล้านจากฮอร์โมน DHT ที่อาการค่อนข้างรุนแรง
3.ผู้ที่ไม่สามารถรักษาผมร่วงผมบางได้ด้วยวิธีอื่น เช่น กินยา ฉีดยา หรือ เลเซอร์
4.ผู้ที่เสียความมั่นใจที่มีสาเหตุมาจากผมบาง ศีรษะเถิก และศีรษะล้าน
5.ผู้ที่มีรอยแผลเป็น ทำให้เส้นผมไม่สามารถเกิดขึ้นได้ตามธรรมชาติ
6.ผู้ที่ต้องการรักษาอาการผมร่วง ผมบาง และศีรษะล้านที่เห็นผลชัดเจนและถาวร
การเตรียมตัวก่อนปลูกผม
1. ลูกค้าควรงดรับประทานยา จำพวก วิตามินต่างๆ อย่างน้อย1-3 วัน ก่อนเข้ารับการปลูกผม
2. ในกรณีที่ลูกค้ามีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง
โรคหัวใจ ฯลฯ ท่านจำเป็นต้องแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนปลูกผม
3. แนะนำให้ลูกค้าตัดผมให้สั้น ก่อนเข้ารับการปลูกผม (หากไม่สะดวกให้แจ้งเจ้าหน้าที่)
4. งดดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ทุกชนิด 2-3 วัน ก่อนการปลูกผม
5. ถ้าท่านแพ้ยากรุณาแจ้งให้แพทย์ทราบในวันที่เข้ารับการปรึกษาก่อนปลูกผม
6. ท่านจำเป็นต้องตรวจเลือด ก่อนการปลูกผมอย่างน้อย 3 วัน
7. ในวันปลูกผมแนะนำให้ท่านสวมเสื้อที่มีกระดุมด้านหน้า หรือเสื้อเชิตและ มีญาติมารับ-ส่ง (หากไม่สะดวกให้แจ้งเจ้าหน้าที่ได้ ทางคลินิกมีบริการรับ-ส่ง)
การดูแลหลังปลูกผม
1. หลังทำทันที ให้ลูกค้านอนหมอนล๊อคศีรษะ 45 องศา นอนท่าตรง
2. ช่วง 7-14 วันแรก ลูกค้าควรรับประทานอาหารอ่อน (หมู) งดแอลกอฮอล์ งดใก่และไข่ งดอาหารแสลง อาทิ ปู ปลาร้า อาหารดิบ ของหมักดอง ฯลฯ โดยเด็ดขาดซึ่งอาจส่งผลกระทบอาจทำให้แผลอักเสบได้
3. งดออกกําลังกายประมาณ 2-4 สัปดาห์แรก
4. งดว่ายน้ำ 4 สัปดาห์ งดกีฬา งดงานที่หักโหมหรือที่มีการกระทบกระแทกมากเกินไป
5. หลีกเลี่ยงฝุ่นหรือตากแดดเป็นเวลานานเกินไปควรอยู่ในที่ที่มีอากาศเย็นหลังการปลูกผม 6. หลังปลูกผมสามารถอาบน้ำ ล้างหน้าได้ตามปกติ (ด้วยความระมัดระวัง)
ห้ามจับโดนบริเวณที่ปลูกผมโดยเด็ดขาด
7. หลังปลูกผม ลูกค้าควรมาล้างแผลกับทางคลินิก 3 วัน และทางเราจะสอนวิธีล้างแผล อย่างถูกวิธีให้กับลูกค้า
8. ลูกค้าสามารถสระผมได้ หลังจากปลูกผมครบ 3 วัน โดยทางคลินิก จะสระผมให้ลูกค้าก่อนในครั้งแรกและสอนวิธีสระผมให้ถูกต้องแก่ลูกค้า ด้วยแชมพูเด็กเท่านั้น ไม่แนะนำให้สระทุกวันเพราะอาจทำให้กราฟที่ปลูกหลุดได้ง่าย ควรสระผม 2 วัน / ครั้ง ควรปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ทำแบบนี้จนครบ3เดือน หลังจากนั้นสามารถสระผมได้ทุกวัน
9. หลังการปลูกผม ช่วง 2-4 สัปดาห์แรก ผมที่ปลูกจะตกสะเก็ดและผลัดทิ้งไปก่อน จากนั้นก็เข้าสู่สภาวะปกติ เซลล์ผมที่ฝังไว้จะไม่หลุดตามเส้นผมไปด้วย แต่จะใช้เวลาประมาณ 4-6 เดือน ในการงอกของเส้นผม ห้ามแกะเกลาโดยเด็ดขาด
10. ทานยา Zinc / Biotin และวิตามินบำรุง อย่างต่อเนื่องประมาณ 3-6 เดือน
11. หลังจากปลูกผมลูกค้าควรมาพบแพทย์เพื่อดูผล ตามเวลานัดทุกครั้ง
อาหารที่ช่วยบำรุงผม
1. วิตามินซี (Vitamin C)
เช่น ฝรั่ง, ส้ม, สตรอเบอร์รี่, พริกหวาน, บลอกโคลี หรือผักคะน้า เป็นต้น
2. วิตามินบีรวม (B Vitamins)
เช่น เนื้อหมู, เนื้อไก่, ถั่ว และผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ จากนม
3. วิตามินเอ (Vitamin A)
เช่น ผักสีส้ม, สีเหลือง, สีเขียวเข้ม, น้ำมันตับปลา และเครื่องในสัตว์
4. ซิงค์ (Zinc)
เช่น อาหารทะเล, หอยนางรม, ปู, กุ้งมังกร, หอยแมลงภู่, เมล็ดทานตะวัน, ถั่วลิสง, เนื้อวัว, เนื้อแกะ, เนื้อหมู และธัญพืช
5. ไบโอติน (Biotin)
เช่น อาหารที่มีไบโอตินเช่น ถั่ว, แครอท, วอลนัท และดอกกะหล่ำ
REVIEW!!
About us
ดูแลโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
ผ่านการอบรมและมีใบรับรองจากหลายสถาบัน
- Fellow in dermato surgery & LASER รามาธิบดี .
- Vissiting fellow dermatology Juntendo Dermatology & Dermatopathology.
- MD.Msc.Phd in Dermatology / LASER / Aesthetic Surgery.
- Fellow in LASER surgey and Facial plastic surgery Fort Lauaderdel Florida USA
- Diploma of Hair Transplantation by Thai association and Academy of Cosmetic surgery and medicine
- Fellowship in Cosmetic Surgery/ Korean college of Cosmetic Surgery
- Diplomate American Board of Hair Restoration Surgery/ABHRS
- International Board of Hair Restoration Surgery / IBHRS
- Certificate Hair transplantation By Korean Society of Hair Restoration Surgery
- Member in association of Aesthetic Anti-aging Surgery,Thailand
- Member of International Society of Hair Restoration Surgery (ISHRS)
- Certificate Liposuction by Korean college of Cosmetic Surgery
- Master degree in Dermatology (MSc)