ดีท็อกซ์ช่วยลดสิวได้มั้ย?
ดีท็อกซ์ (Detox) มาจากคำว่า Detoxification คือกระบวนการล้างสารพิษ สิ่งสกปรกที่ตกค้างต่างๆ ออกจากร่างกาย ซื่อสารพิษเหล่านั้นส่วนใหญ่มักจะมาจากอาหารการกินที่เราบริโภคเข้าไปนั่นเอง การดีท็อกซ์ลำไส้ จึงเป็นสิ่งที่ควรทำ เพราะเมื่อลำไส้ของเราสะอาดแล้วก็จะส่งผลให้ระบบขับถ่ายเราดีขึ้น แก้ปัญหาเรื่องท้องผูก สิวขึ้นเป็นประจำ ผิวพรรณหม่นหมองไม่สดใสได้อีกด้วย
ดีท็อกซ์ลำไส้ ทำให้ผิวใสได้จริงไหม
การสวนล้างลำไส้หรือการดีท็อกซ์ เป็นการกระตุ้นระบบขับถ่ายให้เป็นปกติ ด้วนแนวคิดที่ว่า ร่างกายเราต้องรับสารอาหารมากมายในแต่ละวัน ซึ่งก็มีทั้งสารอาหารที่ดี กากใยอาหาร และสารพิษต่างๆ รวมๆ กันสำหรับคนที่มีระบบขับถ่ายที่ดี ร่างกายก็แข็งแรงสดใส
แต่กับคนที่ระบบขับถ่ายไม่ปกติ ก็มีโอกาสมีของเสียตกค้างในลำไส้ มีของเสียและคราบไขมันสะสม เป็นเหตุให้เกิดโรคต่างๆ ได้มากมาย การสวนล้างลำไส้จึงนำมาซึ่งสุขภาพที่แข็งแรง แต่ก็มีอีกหลายเสียงกล่าวอ้างว่า การดีท็อกซ์ลำไส้ สามารถทำให้ผิวใสขึ้นได้ด้วย จริงหรือเปล่านั้น เราหาคำตอบให้ดังนี้
ประโยชน์ของการดีท็อกซ์ลำไส้มีหลายอย่าง เช่น
- ที่ถูกนำมาใช้งานมากที่สุดคงจะเป็นการล้างสารพิษเน้นการขับไล่คราบของเสียสะสมไขมัน สารพิษที่เกาะอยู่ตามลำไส้ใหญ่ จะมีโลหะหนัก ไขมันให้หลุดออกไป เป็นการบริหารกล้ามเนื้อลำไส้ให้ทำงานได้ดี ระบบขับถ่ายกลับมาทำงานอย่างเป็นปกติ
- ช่วยให้ร่างกายแข็งแรงสดชื่นขึ้น ไม่รู้สึกอ่อนเพลีย เพราะระบบการทำงานส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้องทำงานได้ดีขึ้น
เช่น ตับ ไต ถุงน้ำดี ตับอ่อน ต่อมน้ำเหลือง ฯลฯ ช่วยลดความอ้วน แก้ปัญหาตัวบวมน้ำ และแก๊สสะสมในร่างกาย - ทำให้ลำไส้มีขนาดปกติตามธรรมชาติ
- แก้อาการภูมิแพ้ได้หลายชนิด
แล้วการดีท็อกซ์ทำให้ผิวสวยได้อย่างไร
สารพิษตกค้างในลำไส้ เป็นแหล่งรวมของจุลินทรีย์ชนิดที่ไม่ดีกับร่างกาย จนเกิดการย่อยอาหารที่ไม่สมบูรณ์ มีกากอาหารเล็กๆ ตกค้างอยู่ที่ผนังลำไส้ เมื่อลำไส้ไม่สะอาด ทำให้การดูดซึมสารอาหารต่างๆได้ไม่ดี ร่างกายไม่สามารถใช้สารอาหารที่ได้รับอย่างเต็มที่
เมื่อเราดีท็อกซ์ขับไล่ของเสียและสารพิษตกค้างในลำไส้ออก ร่างกายจะรู้สึกได้เลยว่าสดชื่นขึ้น ไม่อ่อนเพลีย ทานอาหารได้เต็มอิ่ม นั่นเพราะร่างกายได้รับสารอาหารอย่างเพียงพอนั่นเอง วิตามิน แร่ธาตุและสารอาหารบางชนิดที่ดูดซึมผ่านลำไส้ได้เท่านั้น จะเข้าสู่ร่างกายได้มากขึ้น แก้อาการตัวบวมน้ำ น้ำในเซลล์มากเกินไป ผิวพรรณผ่องใส ลดสิว ฝ้า กระ รอยด่างดำ ผิวพรรณมัวหมองดูโทรมได้ ไม่ว่าทานอาหารเสริมหรืออาหารใดๆ ก็รับสารอาหารดีๆ ได้ทั้งหมดนั่นเอง
อยากเริ่มดีท็อกซ์ต้องทำยังไง
มีหลายวิธี เช่นการทานอาหารที่มีกากใยสูงเป็นประจำ เพื่อให้ร่างกายขับถ่ายได้เป็นปกติ, การสวนล้างลำไส้ (ควรได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ) หรือการใช้อาหารเสริมต่างๆ
อย่างไรก็ตาม ไม่ควรดีท็อกซ์เป็นเวลานานๆอย่างต่อเนื่อง เพราะจะทำให้ลำไส้เคยชิน ตอบสนองช้า ท้องผูกได้ง่าย ระยะเวลาที่เหมาะสมคือประมาณ เดือนละ 1 ครั้งเท่านั้น
ทำไมต้องใช้ สูตรดีท็อกซ์ลำไส้
ฟังดูเหลือเชื่อแต่มันคือเรื่องจริงว่าเฉพาะพื้นผิวลำไส้เล็ก ก็มีขนาดถึง 250 ตารางเมตร หรือเท่ากับสนามเทนนิส 2 สนามเลยทีเดียว!!! แต่เมื่ออยู่ในช่องท้องของเราจะมีรูปทรงหดย่นพับไปพับมา และเต็มไปด้วยซอกมากมาย และซอกตามรอยพับนี่แหละค่ะ ที่เป็นแหล่งสะสมของ “ตะกรันลำไส้” ที่เกิดจากการทานอาหารมันๆ ย่อยยาก รวมถึงอุจจาระเก่าที่ตกค้างจากการขับถ่ายไม่เป็นเวลา อาจดูน่าตกใจ แต่เชื่อหรือไม่ว่ามันสามารถสะสมอยู่ในลำไส้ของเราได้หลายกิโลกรัมเลยทีเดียวนะคะ
ลำไส้ที่มีตะกรันสะสมมากๆ เสี่ยงกับอะไรบ้าง
– เป็นสิว ผิวพรรณไม่สดใส
– มีกลิ่นตัว
– มีกลิ่นปากแบบไม่ทราบสาเหตุ
– ท้องอืด ท้องเฟ้อ เรอบ่อย
– ถ่ายยาก ถ่ายไม่สุด
– ท้องผูก ขับถ่ายไม่เป็นเวลา
– มีอาการถ่ายเหลว ปวดท้อง หรือท้องเสียบ่อย
– มีอาการคล้ายกรดไหลย้อน (ซึ่งเกิดจากแก๊สในลำไส้)
– เสี่ยงต่อโรคมะเร็งลำไส้
สูตรดีท็อกซ์ลำไส้ ทำเองง่ายๆ
ดังนั้นใครที่มีปัญหาตามที่ว่ามา ควรหันมาทานผักผลไม้ให้มากขึ้น และลองมาทำ สูตรดีทอกซ์ลำไส้ แบบฉบับโฮมเมดกันนะคะ ทำเองไม่ยาก แต่บอกเลยว่าได้ผลดีมาก แถมประโยชน์เพียบ!!!
ก่อนอื่นต้องเข้าใจความหมายของ “ดีท็อกซ์” ว่าเป็นกระบวนการที่ร่างกาย เปลี่ยนสารพิษให้เป็นสารที่มีพิษน้อยลง หรือเพิ่มการขับสารพิษออกจากร่างกายได้มากขึ้น ส่วนมากกระบวนการนี้เกิดขึ้นที่ตับ เพราะตับสามารถเปลี่ยนสารที่ “ละลายไขมัน” ให้กลายเป็นสารที่ละลายในน้ำได้ แล้วสารเหล่านี้จะถูกขับออกทางน้ำดีหรือปัสสาวะ ซึ่งกระบวนการตรงนี้แบ่งออกเป็น 2 เฟส ดังนี้
เฟส 1 ผ่านการทำงานของเอนไซม์ในร่างายที่ชื่อ “P450” เป็นหลัก เอนไซม์ทำให้สารพิษน้อยลงละลาบน้ำได้ และขับออกจากร่างกายผ่ายสารน้ำรูปแบบต่างๆ สารพิษที่ขจัดในเฟสนี้ได้แก่ กาแฟ แอลกอฮอล์ ยาฆ่าแมลง สี เป็นต้น และตัวช่วยส่งเสริมการทำงานของ P450 คือ กลุ่มวิตามินบี ธาตุแมกนีเซี่ยม และธาตุเหล็ก
เฟส 2 ผ่านการทำงานของสารต่างๆ ที่เอาตัวเองเข้าไปจับกับโมเลกุลของสารพิษ ทำให้สารพิษมีความเป็นพิษน้อยลง สารเหล่านั้นได้แก่ สารกลุ่มกลูตาไทโอนซัลเฟต ไกลซีน กลูคูโรไนด์ เป็นต้น ตัวช่วยส่งเสริมการทำงานของสารเหล่านี้ เช่น แคลเซียม กรดแอมิโนจำเป็น และ N-Acetyl Cysteine เป็นต้น
การดีท็อกซ์ แก้ปัญหาไหนของสิวได้บ้าง?
หากร่างกายมีสารพิษน้อยลงแล้ว ปฏิกิริยาของร่างกายโดยเฉพาะการทำงานของระดับเซลล์จะดีขึ้น ส่งผลให้ร่างกานซ่อมแซมตัวเองได้ดีไปด้วยในด้ายของสิว การดีท็อกซ์ช่วยให้กระบวนการที่สิวอักเสบและการเกิดแผลจากสิวดีขึ้น เพราะถ้าสิวหายเร็ว ร่องรอยจากสิวก็จะน้อยลง ทั้งรอยดำ รอยแดง และแผลเป็น ส่วนสภาวะคล้ายสิวที่มีอาการอักเสบร่วมด้วย เช่น สิวเทียม สิวผด ผื่นแพ้ ก็จะดีขึ้นด้วยหลักการเดียวกัน
อย่างไรก็ตามจะเห็นว่ายังมีสาเหตุของสิวอีกมากมายที่ไม่เกี่ยวข้องกับการดีท็อกซ์ เช่น การทำความสะอาดผิวหน้าไม่ดีพอ การใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะสม และมลภาวะภายนอก ดังนั้น การดูแลผิวหน้าแบบครบกระบวนการตามขั้นตอนยังเป็นเรื่องหลักๆที่ช่วยให้สาวๆปลอดสิวได้ ไม่ใช่แค่การดีท็อกซ์
การดีท็อกซ์ที่เข้าใจกัน อาจใช่หรือไม่ใช่การดีท็อกซ์ที่ถูกต้องตามวิชาการ ดังนั้นก่อนตัดสินใจรับการดีท็อกซ์เพื่อรักษาสิวควรศึกษาขั้นตอนและผลดีผลเสียให้ถ่องแท้ก่อน ถ้าไม่ถูกต้อง นอกจากสิวไม่หายแล้วผิวหน้าอาจจะแย่ลงอีกด้วย
FACEBOOK : MedaClinic LINE ID: @medaclinic IG : meda.clinic