เสริมดั้งไม่ถูกใจแก้ไขได้อย่างไรบ้าง
การเสริมจมูกให้สวยงาม ควรเสริมจมูกให้เหมาะสมเข้ากับรูปหน้าของแต่ละบุคคลและดูเป็นธรรมชาติ ควรมีมุมระหว่างหน้าผากและสันจมูกที่สวยงาม คือสันจมูกไม่ควรต่อตรงจากหน้าผาก ส่วนความสูงของสันจมูกไล่ระดับระหว่างตาไปถึงปลายจมูกในรูปของเส้นโค้งเล็กน้อย และไม่ควรเป็นเส้นตรงชัดเจน
ปัญหาของการเสริมจมูกแล้ว คิดว่าไม่สวย มี สาเหตุและปัจจัยอะไรบ้าง
1. สันจมูกไม่โด่งพอ
สาเหตุ : คิดว่าโด่งกว่านี้จะดูดีกว่าโดยขาดความเข้าใจถึงสัดส่วนที่เหมาะสมของจมูกที่ควรมี
การแก้ไข : ทำความเข้าใจก่อนผ่าตัด โดยพิจารณาจากภาพถ่ายรูปทรงจมูกที่ผู้เข้ารับการปรึกษาต้องการ
2. ปลายจมูกไม่สูงเท่าที่อยากได้
สาเหตุ : หลายคนเสริมสันจมูกโด่งมากเลยทำให้ปลายจมูกดูไม่โด่ง หรืออีกกรณีคือแพทย์ใส่ซิลิโคนสั้นไป
การแก้ไข : ทำความเข้าใจว่าสัดส่วนที่เหมาะสมสวยงามคือ ความสูงระดับปลายจมูกควรมากกว่าระดับสัน จมูกตรงระหว่างตา และควรใส่ความยาวซิลิโคนให้เหมาะสม
3. ไม่ได้ปลายจมูกรูปหยดน้ำ
สาเหตุ : ความหนาของรูปทรงซิลิโคนบริเวณปลายจมูกไม่มีลักษณะคล้ายหยดน้ำกลับหัว
การแก้ไข : เพิ่มความหนาของซิลิโคน แต่ต้องไม่มากเกินไปจนทำให้ผิวหนังบางตึงใสได้
4. มองหรือถ่ายรูปในบางมุมแล้วไม่สวย
สาเหตุ : มุมมองของใบหน้าถ้าถ่ายภาพหน้าตรง อาจมองไม่เห็นความสูงของสันจมูกชัดเจนตรงระหว่างตา แต่ถ้าเสริมซิลิโคนที่มีความหนาพอดี เมื่อมองในมุมด้านข้าง หรือเฉียงประมาณ 30 องศา หรือ 45 องศา จะเห็นได้ชัดว่ามีสันจมูกที่โด่งชัดเจนและสวยงาม และหากยังต้องการให้ภาพหน้าตรงเห็นสันจมูกโด่งชัดเจน เราอาจได้ภาพในมุมมองด้านข้างที่ดูไม่เป็นธรรมชาติได้
การแก้ไข : ให้ความเข้าใจที่ถูกต้องก่อนการผ่าตัด
5. สันจมูกกว้างหรือแคบ และโด่งเห็นชัดว่าผิดธรรมชาติ
สาเหตุ : ซิลิโคนกว้างหนา หรือแคบเล็กกว่าความกว้างปกติของสันจมูกที่มี ทำให้มองเห็นสันจมูกกว้างผิดธรรมชาติ
การแก้ไข : แก้ไขและลดขนาด หรือเพิ่มขนาดซิลิโคนให้เหมาะสมในแต่ละบุคคล
6. สันจมูกต่อตรงมาจากหน้าผาก
สาเหตุ : ซิลิโคนยาวเกินกว่าที่ควรจะเป็น
การแก้ไข : ให้ทำความเข้าใจเรื่องสัดส่วนที่เหมาะสม และลดความยาวของซิลิโค
7. ผิวหนังบริเวณปลายจมูกแดงในระยะแรกแล้วค่อย ๆ บางจนเห็นเป็นลักษณะใส
สาเหตุ : ใส่ซิลิโคนหนาเกินไปบริเวณปลายจมูก
การแก้ไข : ลดความหนาของซิลิโคนให้เหมาะสมตรงปลายจมูก โดยให้ผู้เข้ารับการผ่าตัดเข้าใจถึงความเหมาะสมก่อนเข้ารับการผ่าตัดเสริมจมูก ดีกว่าต้องกลับมาผ่าตัดแก้ไขหลังเกิดปัญหาตามมาภายหลังอีกครั้ง จึงเกิดเป็นการแก้จมูกขึ้นมาได้
ถ้าแก้จมูกแล้ว สามารถเสริมจมูกเลยได้ไหม ?
ถ้าทำจมูกมาแล้วไม่ชอบ หลายๆ คนคงมีคำถามว่าต้องรอถึงเมื่อไหร่ จึงจะสามารถผ่าตัดแก้ไขได้ ซึ่งปกติแล้วจะต้องใช้เวลาประมาณ 6 เดือน หลังเสริมจมูก เพื่อรอให้เนื้อเยื่อ และเส้นเลือดในจมูกสมานตัวกันเสียก่อน เนื่องจากการเกิดแผลจะทำให้เกิดการสร้างเส้นเลือดฝอยเล็กๆ เพื่อสร้างเนื้อเยื่อขึ้นเชื่อมระหว่างบาดแผล ดังนั้น ช่วงที่แผลยังไม่สมานตัวดี
แต่ก็อาจมีกรณีเร่งด่วน เช่น ซิลิโคนทะลุ ติดเชื้อเป็นหนอง ก็ควรจะรีบไปพบแพทย์เพื่อแก้จมูกในทันที โดยปกติแพทย์จะแนะนำให้ถอดซิลิโคนเก่าออกแล้วพักจมูกให้หายติดเชื้อก่อนเป็นเวลา 3-6 เดือน หลังผ่าตัด แต่บางเคสไม่มีการติดเชื้อ สามารถแก้จมูกได้ทันที ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของคุณหมอนะคะว่า สามารถใส่ซิลิโคนเลยได้ไหม
สาเหตุที่จมูกเบี้ยวจนต้องแก้จมูก
1. ฐานจมูกเดิมที่มีมาแต่ลืมตาดูโลกคดเอียงจากเดิมอยู่แล้ว เมื่อวางซิลิโคนเข้าไปแล้วก็จะทำให้ซิลิโคนเอียงตามฐานเดิมนั่นเอง
2.กระดูกบริเวณส่วนกลางนั้นโหนกนูนขึ้นมา เมื่อวางแท่งซิลิโคนเข้าไปแล้ว ทำให้ซิลิโคนเลื่อนไปด้านหลัง และ เอียงในที่สุด
3.ศัลยแพทย์ตกแต่งซิลิโคนยาวเกินพอดี จะทำให้เกิดอาการเอียงไปด้านใดด้านหนึ่ง หรือ บางรายอาจจะเกิดปัญหาซิลิโคนทะลุได้!!!!
4.โพรงจมูกไม่เท่ากัน เมื่อโพรงจมูกทั้งซ้าย และ ขวา ไม่เท่ากันก็จะทำให้เกิดความชันของจมูกที่ไม่เท่ากันจนทำให้เกิดเป็นสาเหตุที่จมูกเบี้ยวได้
ซิลิโคนเบี้ยวเอียง
อาการซิลิโคนเบี้ยวเอียง
สังเกตเห็นได้ว่าซิลิโคนที่เสริมมาเบี้ยวเอียง (วัดจากระหว่างคิ้ว หัวตา ปลายจมูก ควรให้อยู่กึ่งกลางริมฝีปากบน)
การแก้ไข
ใช้วิธีผ่าตัดแบบเปิด (Open Rhinoplasty) เพื่อนำซิลิโคนเก่าและเลาะพังผืดออก ปรับโครงสร้างเดิม เช่น แก้จมูกคดเบี้ยว,ตอกฮัมพ์ หรือปรับจมูกสั้นให้ยาวขึ้น ฯลฯ จากนั้นจึงใส่ซิลิโคนที่ออกแบบมาให้เหมาะกับคนไข้
สาเหตุซิลิโคนเบี้ยวเอียง
– ฐานจมูกเดิมอาจมีความคดเอียงอยู่ก่อนแล้ว
– การตัดแต่งซิลิโคนที่อาจยาวเกินความพอดี
การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ไม่ควรทำ หลังแก้จมูกมีอะไรบ้าง
1. นอนเล่นโทรศัพท์ ในช่วง หลังจมูกทำ มาใหม่ๆ คุณเองก็คงรู้สึกเจ็บจนไม่อยากจะขยับไปไหน ทำได้แค่นอนอยู่บนเตียง ถ้าเบื่อก็จะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่น แต่รู้ไหมว่าตอนที่กำลังนอนเล่นโทรศัพท์ และอยู่ในท่าที่นอนหงาย อาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุโทรศัพท์หลุดมือแล้วกระแทกเข้ากับจมูก จนทำให้ซิลิโคนเบี้ยวได้ จึงทำให้มีคนไข้บางเคสที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นแล้วจะต้องมาปรับแก้จมูกใหม่
2. แต่งหน้า ถ้าเป็นไปได้ไม่ควรจะแต่งหน้าจนกว่าแผลจะปิดสนิท เพราะแผลที่ปิดไม่สนิทจะมีพวกผงของเครื่องสำอางเข้าไปในบาดแผล จนทำให้เกิดการอักเสบได้ หรือว่าต่อให้ไม่มีผงเข้าไปในแผล แต่หลังจากแต่งหน้าก็จะต้องทำการเช็ดทำความสะอาดเครื่องสำอาง ซึ่งการล้างหน้าเป็นสิ่งที่จะต้องงดอยู่แล้ว หลังจากทำการผ่าตัด เพราะถ้าน้ำโดนแผลจะทำให้หายช้ากว่าที่กำหนดได้
3. ทานอาหารรสจัด สำหรับใครที่ชอบกินของเผ็ดๆ มักจะเจออาการน้ำมูกไหล หรือว่าเหงื่อออก ซึ่งไม่ดีแน่ เพราะถ้าน้ำมูกไหล หรือเหงื่ไหลไปโดนแผลจะทำให้แผลชื้น และส่งผลให้แผลไม่สามารถสมานได้สนิท แถมเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้อีกต่างหาก
ไม่มีใครอยากจะแก้ไขจมูกหลังผ่าตัดเสริมดั้งไปแล้ว แม้แต่ศัลยแพทย์ตกแต่งที่ทำการผ่าตัดให้เอง ถ้าไม่จำเป็นจริงๆไม่อยากแก้ไข ทีนี้มาดูกันว่า สาเหตุที่ต้องผ่าตัดแก้ไขจมูกนั้น เกิดจากอะไรบ้าง?
วัสดุที่ใช้เสริมเคลื่อนตัวออกจากตำแหน่งที่ควรอยู่ (Migration of Nasal Prosthesis)
เป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุด อาการบ่งบอกมีหลายอย่างแตกต่างกันออกไป เช่น แกนจมูกเอียง (อาจเกิดทันทีหรือภายหลังก็ได้) ปลายจมูกบางใส (วัสดุเสริมดั้งไหลลงมาที่ปลายจมูก) ปลายจมูกสั้น (วัสดุสั้นไปหรือไหลขึ้นไปทางหัวคิ้ว) จมูกทะลุ (อาจจะทะลุที่ปลายจมูก สันจมูก รูจมูกก็ได้) ฯลฯ
ทรงจมูกไม่ตรงตามความต้องการ (Undesirable Nose Job)
เป็นเรื่องที่ตัดสินได้ยาก เพราะความต้องการของผู้ผ่าตัดกับความเหมาะสมทางการแพทย์อาจจะไม่ตรงกัน สิ่งที่ศัลยแพทย์ตกแต่งจะทำได้คือ การตรวจร่างกายของผู้ผ่าตัดอย่างละเอียด วิเคราะห์โครงสร้างจมูก ใบหน้า ความสูง ฯลฯ เพื่อออกแบบทรงจมูกที่เหมาะสามที่สุด จึงอาจเป็นไปได้ที่ความต้องการของผู้ผ่าตัด ไม่เหมาะสมกับโครงสร้างจมูกและใบหน้า กรณีนี้ศัลยแพทย์ตกแต่งจะพยายามปรับแต่งให้ใกล้เคียงกับความต้องการ โดยไม่ส่งผลเสียตามมาภายหลัง
ผลแทรกซ้อนจากการฉีดสารเติมเต็ม (Adverse Reaction Of Filler Injection)
ผู้เข้าผ่าตัดกลุ่มนี้เริ่มมีมากขึ้นไนช่วงหลัง เพราะมีการฉีดฟิลเลอร์แทนการผ่าตัดเสริมจมูก ฟิลเลอร์ที่ใช้กันมักเป็นกลุ่ม Hyaluronic Acid ซึ่งสามารถสลายได้เองภายใน 6-8 เดือน แต่ความเป็นจริงพบว่า การเสริมจมูกด้วยวิธีนี้ มีความเสี่ยงต่อการเกิดพังผืดมากกว่าปกติ (ไม่นับความเสี่ยงจากการฉีดฟิลเลอร์ที่รุนแรงถึงขั้นตาบอดหรือเนื้อจมูกตายในบางราย) แต่ก็ดีกว่ากลุ่มที่ฉีดซิลิโคนเหลว ซึ่งผ่าตัดแก้ไขได้ยากมาก และไม่สามารถกำจัดออกได้หมด อีกทั้งมักทิ้งร่องรอยความพิการให้หลงเหลืออยู่
สาเหตุอื่นๆ (Miscellaneous)
เช่น อุบัติเหตุ มะเร็ง ความพิการแต่กำเนิด ฯลฯ แม้ว่าจะพบได้ไม่มาก แต่การผ่าตัดแก้ไขนั้นซับซ้อนและยากที่สุดเมื่อเทียบกับสาเหตุอื่น การเตรียมคนไข้ให้พร้อมสำหรับการผ่าตัดเป็นสิ่งสำคัญ ศัลยแพทย์ตกแต่งทำงานเป็นทีมเพื่อให้ผู้ผ่าตัดกลับมามีทรงจมูกที่ใกล้เคียงสภาพเดิมมากที่สุด
การผ่าตัดแก้ไขจมูกไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ที่แพทย์ทั่วไปทำได้ ดังนั้นการเช็ครายชื่อแพทย์ที่ทำการผ่าตัดว่าเป็นศัลยแพทย์ตกแต่หรือไม่นั้น จึงเป็นสิ่งที่ควรคำนึงถึงเสมอก่อนตัดสินใจ
เสริมดั้งไม่ถูกใจแก้ไขได้อย่างไรบ้าง
FACEBOOK : MedaClinic LINE ID: @medaclinic IG : meda.clinic