Thermage เป็นเทคโนโลยียกกระชับผิวด้วยคลื่นวิทยุความถี่สูง (High Radio Frequency) ชนิดขั้วเดียว (Monopolar) โดยหัวยิงสามารถส่งพลังงานในลักษณะเป็นก้อนใหญ่ๆ ลงลึกได้ถึงชั้นหนังแท้ และชั้นไขมันใต้ชั้นผิว แต่ไม่ถึงชั้นเนื้อเยื่อ SMAS (Superfical Muscular Aponeurotic System) ซึ่งเป็นชั้นผิวหนังที่แพทย์ผ่าตัดยกกระชับผิว
Thermage ช่วยกระชับผิว และลดริ้วรอยอย่างไร?
Thermage จะส่งคลื่นวิทยุความถี่สูงลึกไปที่ชั้นหนังแท้ และชั้นไขมันใต้ผิวหนัง แล้วทำให้เกิดความร้อนลึก ที่เนื้อเยื่อบริเวณดังกล่าว ซึ่งส่งผลให้เส้นใยคอลลาเจนและอีลาสตินที่หย่อนคล้อยเกิดการหดตัว และเรียงตัวใหม่ ทำให้ผิวกระชับ และเรียบเนียนขึ้น นอกจากนี้ความร้อนลึกที่เกิดขึ้นยังส่งผลให้เซลล์ไขมันในชั้นไขมันใต้ผิวหนังบางส่วนเกิดการสลายตัว ซึ่งเซลล์ไขมันดังกล่าวเป็นหนึ่งในสาเหตุของเซลลูไลท์ หรือที่เรียกว่า “ผิวเปลือกส้ม” การทำ Thermage จึงช่วยแก้ปัญหานี้ได้ในคราวเดียวกัน
หลังจากที่ทำ Thermage เสร็จเรียบร้อยแล้ว ชั้นผิวหนังที่ทำ Thermage จะยังคงถูกกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใหม่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลให้ผิวแข็งแรงขึ้น ริ้วรอยต่างๆ ค่อยๆ ลดลง รูขุมขุนเล็กลง และผิวกระชับมากขึ้น โดยจะเห็นผลลัพธ์ชัดเจนที่สุดภายใน 3-6 เดือน
หลักการทำงานของ Thermage ช่วยกระชับผิว และลดริ้วรอยอย่างไร?
Thermage จะส่งคลื่นวิทยุความถี่สูงลึกไปที่ชั้นหนังแท้ (Dermis) และชั้นไขมันใต้ผิวหนัง (Subcutaneous) แล้วทำให้เกิดความร้อนลึก (Deep heating) ที่เนื้อเยื่อบริเวณดังกล่าว ซึ่งส่งผลให้เส้นใยคอลลาเจนและอีลาสตินที่หย่อนคล้อยเกิดการหดตัว และเรียงตัวใหม่ ทำให้ผิวกระชับ และเรียบเนียนขึ้น
นอกจากนี้ความร้อนลึกที่เกิดขึ้นยังส่งผลให้เซลล์ไขมันในชั้นไขมันใต้ผิวหนังบางส่วนเกิดการสลายตัว ซึ่งเซลล์ไขมันดังกล่าวเป็นหนึ่งในสาเหตุของเซลลูไลท์ หรือที่เรียกว่า “ผิวเปลือกส้ม” การทำ Thermage จึงช่วยแก้ปัญหานี้ได้ในคราวเดียวกัน
โดยในระหว่างที่ทำการรักษา เครื่อง Thermage ยังมีระบบให้ความเย็น (Spray Cooling) ควบคู่ไปด้วย เพื่อป้องกันอุณหภูมิสูงเกินไป และลดโอกาสในการเกิดผิวไหม้ด้วย
หลังจากที่ทำ Thermage เสร็จเรียบร้อยแล้ว ชั้นผิวหนังที่ทำ Thermage จะยังคงถูกกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใหม่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลให้ผิวแข็งแรงขึ้น ริ้วรอยต่างๆ ค่อยๆ ลดลง รูขุมขุนเล็กลง และผิวกระชับมากขึ้น โดยจะเห็นผลลัพธ์ชัดเจนที่สุดภายใน 3-6 เดือน
สามารถทำบริเวณไหน และประโยชน์มีอะไรบ้าง
1. ยกกระชับใบหน้า ปรับรูปหน้าให้เรียวเล็กลง
2. ลดไขมันสะสมบริเวณแก้ม ใต้คาง และลำคอ
3. ลดริ้วรอยรอบดวงตา ร่องแก้ม รอยย่นบนหน้าผาก และตีนกา
4. แก้ปัญหาคิ้วตก หนังตาตก และผิวเปลือกตาที่มีรอยย่น
5. ลดปัญหาผิวเหี่ยวย่น หย่อนคล้อย และเพิ่มความเรียบเนียน
6. ลดขนาดรอบเอว รอบขา หรือรอบแขน และเพิ่มความตึงกระชับ
7. ยกกระชับสะโพก ลดปัญหาผิวเปลือกส้มที่สะโพก และต้นขา
8. ฟื้นฟูโครงสร้างผิว กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่
คำแนะนำหลังทำ Thermage กำจัดเหนียง
- ผิวแน่นกระชับขึ้นหลังทำทันที 20-30%
- เริ่มเห็นผลลัพธ์ที่ 1 เดือน และชัดเจนที่สุดหลังทำ 6 เดือน
- สามารถทำซ้ำได้ทุก 3 เดือน
- หลังทำสามารถบวมได้เล็กน้อย แต่ไม่มากเท่า Ulthera/ HIFU
- อาจมีผิวแดง ชมพูระเรื่อ สามารถหายได้เอง ประมาณ 1-2 ชั่วโมง
- อาจเกิดสะเก็ดเล็กๆ ได้บริเวณกรอบหน้า ในช่วง 1 สัปดาห์แรก (ปกติ)
- พยายามหลีกเลี่ยงการโดนแดด
หน้าบาน! เหนียงยาน! สยองยิ่งกว่าเรื่องเล่าเขย่าขวัญเสียอีกเพราะ “เหนียง” หรือ “ไขมนสะสมใต้คาง” เป็นสิ่งที่บ่งบอกอายุ เหนียงเป็นหนึ่งในปัญหาที่รักษายากที่สุดเพราะเกิดจากการที่คอลลาเจนในชั้นผิวลดลง ไขมันสะสมมากขึ้น และกล้ามเนื้อแพลทิสมาทำงานหนักขึ้น
กล้ามเนื้อแพลทิสมา (Platysma)
อยู่บริเวณด้านหน้าลำคอเป็นกล้ามเนื้อที่ทำหน้าที่ดึงริมฝีปากล่างและมุมปาก
ทางเลือกในการแก้ไขปัญหาเหนียงนอกจากการฉีดโบท็อกซ์ ฉีดฟิลเลอร์ หรือการฉีดสลายไขมันแล้ว ตอนนี้ยังมีอีกทางเลือกหนึ่งที่ได้ผล สามารถเก็บเหนียงและจัดกรอบหน้าได้อย่างยาวนานถึง 3ปี คือการรักษาด้วยเครื่องเทอร์มิอาร์เอฟ (Thermage RF Lift) พัฒนาโดย ดร.เบรน คินนี่ (Dr. Brain Kinney) ซึ่งผ่าน FDA ของอเมริกา เป็นเทคโนโลยีที่ได้มีการพัฒนากลไกต่างๆให้ดีขึ้นด้วย เช่น การใช้เข็มปลานทู่เล็กๆสอดเข้าไปในผิวหนังแล้วปล่อยพลังงานเข้าไปตรงจุดที่ต้องการ ถือว่าเป็นนวัตกรรมการปล่อยคลื่นวิทยุภายในร่างกานเครื่องแรกของโลก
สำหรับการเก็บเหนียงและจัดกรอบหน้าต้องใช้หัวเทอร์มิไทท์ (Thermage RF Lift) เพื่อสลายไขมันส่วนเกินในบริเวณที่ไม่ต้องการ และหดกระชับชั้นไขมันให้เกิดการจัดเรียงเส้นใยที่ยึดคอลลาเจนให้เป็นระเบียบ โดยที่ตัวเครื่องสามารถตั้งอุณหภูมิและพลังงานที่ต้องการได้ทั้งที่ปลายเข็มและกล้องอินฟาเรดซึ่งจับอยู่ที่ผิวหนังด้านนอก
ขั้นตอนการทำ Thermage RF Lift เพื่อกำจัดเหนียง
เริ่มจากสอดเข็มเข้าไปแล้วปล่อยพลังงานอาร์เอฟที่ปลายเข็มซึ่งสามารถวัดอุณภูมิด้านในและด้านนอกของผิวหนังได้ในเวลาเดียวกัน สมมติรู้ว่าอุณหภูมิที่ทำให้ไขมันสลายอยู่ที่ 40-42องศาเซลเซียส เราก็ควบคุมอุณหภูมิด้านในให้ถึง ในขณะที่ผิวด้านนอกจะมีกล้องอินฟาเรดอีกตัวคอยส่องแล้วบอกอุณภูมิเรียลไทม์ ถ้าอุณหภูมิเกินจากที่ตั้งไว้เครื่องจะตัดทันที ผลลัพธ์ที่ได้คือ
- รักษาได้ตรงจุด เพราะกำหนดพื้นที่การรักษาและอุณหภูมิที่แน่นอนได้
- ปลอดภัยสูง ผิวด้านนอกไม่เสี่ยงต่อการไหม้
- ไม่เจ็บปวดมาก เพราะอุณหภูมิควบคุมได้
- ช่วยให้ผิวด้านนอกกระชับขึ้น เพราะระหว่างที่ทำให้ไขมันด้านในสลายไป ปกติผลกระทบที่จะตามมาคือ ผิวด้านนอกจะฟีบลง แต่การที่ทำให้อุณภูมิที่ผิวได้านนอกได้ระดับที่พอดี จะทำให้ไขมันด้านในสลายไป โดยที่ผิวด้านนอกกระชับด้วย
THERMI TIGHT vs. THEMAGE
เทอร์มิไทท์ จะได้ผลมากกว่าเทอร์มาจ การฉีดโบท็อกซ์ และฟิลเลอร์ เพราะสามารถเขาถึงไขมันได้โดยตรงและควบคุมอุณหภูมิได้ตามต้องการ ฉะนั้นทำ 1ครั้ง จึงอยู่ได้นาน 3ปี แต่จะไม่เห็นผลทันที เพราะต้องใช้เวลาประมาณ 1เดือน หลังทำจึงจะดีขึ้นเรื่อยๆ กระทั่งดีถึงจุดสูงสุด 6เดือน แล้วจะอยู่ไปได้ประมาณ 3ปี
FACEBOOK : MedaClinic LINE ID: @medaclinic IG : meda.clinic