หมอ

ดูดไขมันเหนียง

ดูดไขมันเหนียง

การดูดไขมันเหนียงเป็นที่นิยมทำกันทั้งในผู้หญิงและผู้ชาย เนื่องจากสามารถทำให้ใบหน้าดูเรียวได้รูป ช่วยเสริมสร้างบุคลิกภาพและเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ทำ รวมไปถึงสามารถช่วยแก้ปัญหาการมีเหนียงหรือคางสองชั้นที่คนทั่วไปมักเข้าใจว่า จะเกิดกับคนอ้วนเท่านั้น แต่จริงๆ แล้ว คนรูปร่างผอมบาง หรือคนตัวเล็ก ก็สามารถมีเหนียงหรือคางสองชั้นได้เช่นกัน

ดูดไขมันเหนียงคืออะไร

การดูดไขมันเหนียง หรือคางสองชั้น (Double Chin Liposuction) คือ การแก้ไขปัญหาไขมันส่วนเกินใต้ผิวหนังบริเวณใต้คาง โดยสามารถทำได้ทั้งการใช้เครื่องดูดไขมัน หรือการดูดไขมันด้วยมือสำหรับคนที่มีเหนียงน้อยมาก ซึ่งต้องอาศัยความชำนาญของแพทย์จึงจะได้ผลลัพธ์ที่ดีและมีผลข้างเคียงน้อยที่สุด

การมีเหนียงมักเกิดจากหลายปัจจัย ได้แก่ อายุ สภาพผิว กรรมพันธุ์ โครงสร้างคางสั้น พฤติกรรมการใช้ชีวิต กล้ามเนื้อใต้คาง หรือไขมันสะสม ซึ่งการดูดไขมันเหนียงออกมาจะทำให้คางกระชับ ใบหน้าเรียวเล็กลง และดูดไขมันเหนียงเพียงครั้งเดียวก็สามารถเห็นผลลัพธ์ได้ทันที

ดูดไขมันเหนียงเจ็บไหม

การดูดไขมันเหนียงใต้คางซึ่งเป็นบริเวณผิวบอบบาง อาจทำให้รู้สึกเจ็บได้ แต่โดยปกติแพทย์จะฉีดยาชาเพื่อระงับความรู้สึกเจ็บให้ แต่เมื่อชั้นไขมันบางลง ไขมันที่ยังเหลือติดอยู่กับผิวหนังและกล้ามเนื้อ อาจจะทำให้รู้สึกเจ็บ หรือรู้สึกแปลบๆ บ้าง ในบางครั้ง แต่จะไม่เจ็บตลอดเวลา นอนหลับได้สบายๆ

ปัจจุบันการดูดไขมันเหนียงเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย เพราะช่วยเพิ่มความมั่นใจ และสร้างเสริมความสวยงามทำให้ใบหน้าเรียวสวย ได้รูป แต่เจ็บน้อย ปลอดภัยสูง และที่สำคัญเห็นผลลัพธ์ได้ทันที หลังทำเพียงครั้งเดียว


FaceTite สลายไขมันบนใบหน้า
ปรับรูปหน้าเรียว ช่วยแก้ไขปัญหาคางสองชั้น ใบหน้ากระชับ แก้ปัญหาหย่อนคล้อยหน้าบาน แก้มเยอะ มีเหนียงเป็นชั้นๆเป็นอีกหนึ่งปัญหาของผู้ที่อยากมีใบหน้าเรียวสวย เมด้าคลินิกขอเสนออีกทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ที่ต้องการแก้ไขใบหน้าบาน คางสองชั้น ยกกระชับใบหน้า ด้วยการสลายไขมันเฉพาะจุดเพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านี้ เมื่อพูดถึงการสลายไขมัน หลายๆคนอาจจะกลัวว่าจะ เจ็บหรือทำให้มีรอยแผลขนาดใหญ่ ซึ่งปัจจุบันการแพทย์สมัยใหม่ทำให้การรักษาแผลมีขนาดเล็กมากๆ เป็นเพียงจุดเล็กๆ เพียงจุดเดียว และรอยนี้จะหายได้เองโดยไม่ทิ้งแผลเป็นไว้แน่นอน และนอกจากนี้ยังมีผลข้างเคียงน้อย และผู้เข้ารับการรักษาแทบจะไม่ต้องพักฟื้นเลยFace Tite เป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมใหม่ ที่จะช่วยทำให้ใบหน้าดูเรียวเล็ก ผิวเรียบเนียนกระชับ ย้อนวัยผิวให้กลับมาดูอ่อนเยาว์ลงสามารถตอบโจทย์ปัญหาบนใบหน้าให้หมดไปอย่างไร้กังวล พร้อมทั้งสามารถกำจัดไขมันเฉพาะจุดบนใบหน้าที่ไม่ต้องการอย่างได้ผล ทั้งยังสามารถปรับโหงวเฮ้งของรูปหน้า ยกคิ้ว ดึงหน้าผาก หางตาแก้ปัญหาผิวหย่อนยาน ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

FaceTite สลายไขมันได้อย่างไร FaceTite พัฒนามาจากเทคนิคการสลายไขมันของตัว Bodytite ด้วยเทคโนโลยีคลื่นความถี่วิทยุ (Radio Frequency: RF) เพื่อยกกระชับผิวหนัง ในส่วนของดวงตา ใบหน้า ลำคอและส่วนของร่างกาย ในบริเวณชั้นไขมันส่วนที่บางและอยู่ในชั้นตื้นๆ โดยการใช้ Handpiece ที่ประกอบไปด้วย External Electrode และ Internal Electrode การใช้พลังงานคลื่นความถี่วิทยุนี้ จะทำให้เกิดความร้อนระหว่าง Electrode ทั้งสอง ความร้อนที่เกิดขึ้นจะช่วยทำให้ ไขมันแตกตัว พร้อมทั้งกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวหนังทำให้ผิวหน้าตึงกระชับมีความยืดหยุ่นลดริ้วรอยเหี่ยวย่นในบริเวณต่างๆ ทั้งริ้วรอยลึกและตื้นได้อย่างมี ประสิทธิภาพ โดยในส่วนปลายของ internal electrode เป็นแบบทู่(Blunt) เพื่อป้องกัน ไม่ให้ทำลายผิวด้านในหรือก่อให้เกิดผลข้างเคียงบริเวณที่มักทำการรักษา ได้แก่ Lower eyelid (ถุงใต้ตา) , Cheeks(แก้ม), Nasolabial folds (ร่องแก้ม), Upper lip (ริมฝีปากบน), Jaw line (ขากรรไกร) และ Forehead (หน้าผาก) ในบางรายที่คอมีไขมัน ก็สามารถทำการรักษาบริเวณนั้นได้หรือบริเวณส่วนของ ร่างกายที่เป็นพื้นที่เล็กๆ ที่มีการหย่อนคล้อยที่ต้องการยกกระชับก็สามารถทำได้เช่นกัน*การรักษาด้วยเครื่อง Face Tite มีผลดีต่อผู้เข้ารับการรักษาอย่างมากเนื่องจากผู้รับการรักษาสามารถเห็นผลการรักษาได้ชัดเจน ไม่ต้องทำการผ่าตัด ไม่ต้องมีบาดแผล ไม่จำเป็นต้องนอนโรงพยาบาล

 

ระยะเวลาที่ใช้ในการรักษาFaceTite จะใช้เวลาในการรักษาประมาณ 1 ชั่วโมง และสามารถเห็นผลได้ชัดเจนหลังทำการรักษาทันที

ผลลัพธ์ที่ได้ใบหน้าดูเรียวกระชับ ลดรอยเหี่ยวย่นของใบหน้าเหมาะสำหรับใครผู้ที่ต้องการให้ใบหน้าเรียวกระชับได้รูป ผู้ที่มีปัญหาชั้นไขมันแก้มเยอะผู้ที่มีปัญหาชั้นไขมันคางบริเวณถุงใต้ตาผิวหนังหย่อนเล็กน้อยถึงปานกลางไม่ต้องการและไม่คิดจะทำศัลยกรรมยกกระชับใบหน้า

ข้อดี – ข้อเสีย เทคโนโลยีนี้เป็นนวัตกรรมที่คิดค้นพัฒนามาจากการดูดไขมันแบบเก่า แก้ปัญหา และข้อบกพร้องที่เกิดจากการดูดไขมันแบบเดิมที่เสียเลือดมาก ใช้ระยะเวลานาน มีแผลเปิดใหญ่ ทำให้เกิดความบอบช้ำ และความเสี่ยงต่างๆ อีกทั้งเกิดความหย่อนคล้อยในบริเวณที่ดูดไขมัน การพัฒนาแบบใหม่นี้จะเห็นผลชัดเจน โดยเฉพาะ หลักการในการใช้พลังงาน RF Assisted Liposuction ทำให้หลังจากกำจัดไขมันออกไป ผิวจะกระชับ เรียบตึงไปพร้อมกัน ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบที่ชัดเจน นอกจากนี้ยังสามารถฟื้นฟูคอลลาเจน ทำให้ผิวมีโครงสร้างที่แข็งแรงขึ้น โอกาสที่ไขมันจะกลับมาสะสมใหม่ยากกว่าการดูดไขมันแบบเดิม ส่วนข้อเสียคือมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูงในการทำ (ราคาขึ้นอยู่กับพื้นที่บริเวณที่ทำ) แต่เมื่อเปรียบเทียบกับการดูดไขมันแบบเดิมหนึ่งครั้ง บวกกับการกระชับ

การดูดไขมันด้วยคลื่นไฟฟ้า (Body Tite) คือการใช้เทคนิคยิงคลื่นวิทยุร่วมกับคลื่นความร้อนเข้าไปละลายไขมันให้เหลวเช่นเดียวกัน ต่างกับแบบเวเซอร์ตรงที่ช่วยเรื่องกระชับผิวไปในตัวด้วย เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ที่อยากดูดไขมันแล้วดูสวย ดูตึงแบบเนียน ๆ ไม่ต้องเย็บเก็บหนังหน้าท้องในภายหลัง แต่ราคาค่อนข้างสูงเหมือนกัน

ft_md1

 

เตรียมตัวก่อนดูดไขมัน

1. การดูดไขมันไม่ใช่การลดน้ำหนัก

หลายคนเข้าใจผิดว่าการดูดไขมันคือการลดน้ำหนัก ที่จะทำให้ได้รับหุ่นผอมเพรียวในระยะเวลาที่รวดเร็ว แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่อย่างที่คิด การดูดไขมันจะช่วยลดสัดส่วนได้ เนื่องจากเป็นการเอาเซลล์ไขมันออกจากร่างกายในบริเวณที่ไม่สามารถลดได้จากการควบคุมอาหารตามปกติ อาจเนื่องจากพันธุกรรมหรือการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเพศ  อีกทั้งเราไม่สามารถดูดไขมันได้ในหลายๆ บริเวณของร่างกาย

การดูดไขมัน จะทำให้กระชับสัดส่วนขึ้น น้ำหนักอาจเปลี่ยนลงบ้างเพราะไขมันจะเบากว่าที่เห็นมากและในช่วง 1-2 อาทิตย์แรก อาจจะเห็นน้ำหนักขึ้น ก็ไม่ต้องตกใจเพราะเนื่องจากอาการบวมอักเสบ

2. งดยา อาหารเสริมบางชนิดก่อนการดูดไขมัน 2 อาทิตย์

เตรียมตัวก่อนดูดไขมัน โดยงดยาและอาหารเสริมบางชนิด เช่น ยาลดการแข็งตัวของเลือด ยาแอสไพริน ยาแก้ปวดบางชนืด ยารักษาอาการซึมเศร้า

3. งดการสูบบุหรี่ 2 อาทิตย์ก่อนการดูดไขมัน

การสูบบุหรี่ก่อนการผ่าตัดใดๆ ถือว่าเพิ่มความเสี่ยงต่อการหายของแผล ทำให้หายช้า แผลไม่ติด ทั้งนี้รวมถึงการใช้นิโคตินหรือบุหรี่ไฟฟ้าที่มีสารนิโคตินแบบเดียวกัน

4. แจ้งแพทย์ตามตรง ถึงเรื่องโรคประจำตัว

การแจ้งแพทย์ให้ทราบถึงโรคประจำตัวในอดีตหรือปัจจุบัน เป็นการเตรียมตัวก่อนดูดไขมัน ที่สำคัญมากจริงๆ อย่ากังวลว่าหากพูดไปมากๆหมอจะไม่ทำให้ ความปลอดภัยจากการผ่าตัดสำคัญกว่ามาก

5. ควรวางแผนการเดินทางหรือทำงานหลังการดูดไขมัน

โดยปกติ การดูดไขมันในจำนวนพื้นที่ไม่มาก ถือว่าไม่อันตรายอะไร แต่ก็ควรมีการเตรียมตัวโดยหลีกเลี่ยงการขึ้นเครื่องบินนานๆ (นานกว่าหกชั่วโมง) ทันทีหรือนั่งรถนานๆ

6. ไขมันที่ดูดออกมาสามารถนำไปเติมส่วนอื่น ๆ ได้

ไขมันที่ถูกดูดออกจากร่างกายของเราในเทคนิคพิเศษ อาจจะสามารถถูกนำกลับมาฉีดเพื่อเสริมร่างกายบางส่วนของเราได้ เช่น บริเวณที่เกิดการแหว่งหรือเป็นหลุมจากสาเหตุต่างๆ หรือเติมเต็มบริเวณริมฝีปาก คาง หรือแก้ม เป็นต้น

7. การดูดไขมันต้องใช้ระยะเวลากว่าจะเข้าที่

การดูดไขมันนั้นต้องใช้ระยะเวลา และนอกจากความสามารถของแพทย์ แล้วการดูแลหลังการดูดไขมัน และทำตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ก็เป็นหนึ่งในวิธีที่จะทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

 

หลังการดูดไขมัน จะดูแลตัวเองอย่างไร

1. ทำแผลวันละครั้ง ตามคำแนะนำ

2. ควรกลับบ้านพักผ่อน และควรเริ่มเดินทันทีเพื่อป้องกันการเกิดก้อนเลือดอุดตันที่ขา และเพื่อช่วยระบายของเสียออกจากแผล

3. งดการอาบน้ำ สามารถอาบน้ำได้ในวันถัดไป หลังจากที่ทำการติดพาสเตอร์กันน้ำ ใช้พาสเตอร์กันน้ำ แปะแผลก่อนอาบน้ำทุกครั้ง บางท่านอาจมีอาการแพ้ อาจใส่เฉพาะว่าก่อนอาบน้ำก็พอ ไม่ต้องใส่ตลอดเวลา

4. อย่าให้แผลโดนแดด เพราะอาจจะทำให้แผลมีสีดำได้

5. ใส่ชุดกระชับตลอด 24 ชม. ใน 3 วันแรก และหลังจากนั้นใส่เพียงวันละ 12 ชม. เพื่อให้เลือดไหลเวียน เป็นเวลา 1 เดือน

6. ใส่ชุดกระชับที่ออกแบบมาสำหรับการดูดไขมัน BodyTiteเสมอ เพื่อให้ผิวกระชับได้เร็วขึ้น

7. หากมีแผลด้านใน บริเวณขา พยายามไม่ให้แผลโดนปัสสาวะ เพี่อป้องกันการติดเชื้อ

8. งดกิจกรรมหนัก เพื่อป้องกันแผลเปิดสักระยะ  สามารถออกกำลังกายเบาๆ ได้ ส่วนออกกำลังกายหนัก เริ่มทำได้หลังการดูดไขมัน 2 อาทิตย์

9. งดทานของเค็ม และแอลกอฮอล์ รวมถึงของหมักดองเพื่อไม่ให้แผลหายช้า

10. ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ และทางคลินิกอย่างเคร่งครัด

 

สนใจรับคำปรึกษา หรือติดต่อสอบถาม
เมด้าคลินิก 574 ถนน เชียงใหม่-ลำปาง
ต.ท่าศาลา อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ 50000
โทร. 053-230257 , 062-3103798
เปิดทำการ จ-ศ 10.00 – 19.30 น.  ส-อา 10.30 – 19.30 น.
FACEBOOK : MedaClinic  LINE ID: @medaclinic  IG : meda.clinic

This entry was posted in . Bookmark the permalink.

บทความเพิ่มเติม

เมด้าคลินิกมี 4 สาขา ใกล้บ้านท่าน

📍สาขาเชียงใหม่ แยกดอนจั่น 574 ถนน เชียงใหม่-ลำปาง ต.ท่าศาลา อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ Tel.053-230257 ,062-3103797, 062-3103798
 
📍สาขามีโชคพลาซ่า 206/17 ต.ฟ้าฮ่าม อ.เมือง จ.เชียงใหม่ 
Tel. 053-230258 ,062-3103799, 062-3103800
 
📍สาขากรุงเทพ สวทช.รังสิต
อาคาร Inc1 สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ 131 อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย ถ.พหลโยธิน ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี 12120 ชั้น3 ห้อง  307-308
 
📍สาขาพัทยา 194/5และ194/6 หมู่9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง , Chon Buri, Thailand, Chon Buri

เวลาทำการ
จันทร์ – ศุกร์   10.00 – 19.30 น.
เสาร์ – อาทิตย์ 10.30 – 19.30 น.