มารู้จักกับการดูดไขมันเหนียงกันเถอะ
ดูดไขมันเหนียงคืออะไร
การดูดไขมันเหนียง หรือคางสองชั้น (Double Chin Liposuction) คือ การแก้ไขปัญหาไขมันส่วนเกินใต้ผิวหนังบริเวณใต้คาง โดยสามารถทำได้ทั้งการใช้เครื่องดูดไขมัน หรือการดูดไขมันด้วยมือสำหรับคนที่มีเหนียงน้อยมาก ซึ่งต้องอาศัยความชำนาญของแพทย์จึงจะได้ผลลัพธ์ที่ดีและมีผลข้างเคียงน้อยที่สุด
การมีเหนียงมักเกิดจากหลายปัจจัย ได้แก่ อายุ สภาพผิว กรรมพันธุ์ โครงสร้างคางสั้น พฤติกรรมการใช้ชีวิต กล้ามเนื้อใต้คาง หรือไขมันสะสม ซึ่งการดูดไขมันเหนียงออกมาจะทำให้คางกระชับ ใบหน้าเรียวเล็กลง และดูดไขมันเหนียงเพียงครั้งเดียวก็สามารถเห็นผลลัพธ์ได้ทันที
ประโยชน์ของการดูดไขมันเหนียง
การดูดไขมันเหนียง มีประโยชน์ และข้อดีดังนี้
-เพิ่มความมั่นใจ ด้วยใบหน้าเรียวได้รูป อย่างเป็นธรรมชาติ
-เป็นการกำจัดไขมันสะสมเฉพาะจุด
-เป็นการสลายเฉพาะเซลล์ไขมันไม่ทำลายเนื้อเยื่อโดยรอบ
-เลือดออกน้อย เพราะแพทย์เปิดแผลขนาดเล็กเพียง 0.1 ซ.ม.
-ปลอดภัย และผลข้างเคียงน้อย
-ใช้เวลาในการพักฟื้นไม่นาน
-ใช้เข็มที่เล็กเป็นพิเศษ จึงไม่มีรอยแผลเป็น
-ได้ผลลัพธ์รวดเร็วและถาวร หากดูแลตัวเองให้ดีหลังดูดไขมัน
ดูดไขมันเหนียงเหมาะกับใคร
-ผู้ที่มีปัญหาคางสองชั้นหรือมีเหนียงจำนวนมาก
-ผู้ที่มีคางสั้น แต่มีไขมันสะสมใต้คาง
-ผู้ที่มีกรอบหน้าไม่ชัด การดูดไขมันใต้คางออกจะทำให้กรอบหน้าชัดขึ้น
-ผู้ที่มีน้ำหนักน้อย แต่มีใบหน้ากลม ต้องการให้มีคางเรียวขึ้น
-ผู้ที่มีน้ำหนักตัวมาก ทำให้มีไขมันสะสมทั้งใบหน้าแก้ม และเหนียงใต้คาง
-ผู้ที่มีความยืดหยุ่นของผิวหนังดีอยู่ หรือ-ผู้มีอายุประมาณ 30-50 ปี และยังไม่มีความหย่อนคล้อยของผิวหนังมาก ซึ่งควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจสอบสภาพผิวหนังก่อนตัดสินใจทำ
-ผู้ที่มีปัญหาเรื่องไขมันสะสมส่วนเกินบริเวณใบหน้า ช่วงบริเวณแก้มล่าง แนวขอบกรามไปถึงใต้คาง ทำให้มีหน้าใหญ่
-ผู้ที่ต้องการให้ใบหน้าดูเรียว ได้รูปมากขึ้น แต่ไม่ต้องการผ่าตัดกระดูกกราม
ดูดไขมันเหนียงไม่เหมาะกับใคร
-ผู้ที่มีอายุมากและมีผิวหนังหย่อนคล้อย -ซึ่งควรใช้วิธีการผ่าตัดเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า
-ผู้ที่มีปัญหาการไหลเวียนโลหิตไม่ดี
-ผู้ที่เป็นโรคหัวใจ
-ผู้เป็นโรคเบาหวาน
-ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง
ดูดไขมันด้วยเครื่อง Body Tite
Body Tite คือ นวัตกรรมใหม่ล่าสุดที่ใช้คลื่นความถี่วิทยุ ในการสลายไขมัน ดูดไขมัน พร้อมยกกระชับผิว ซึ่งในปัจจุบันเป็นที่ยอมรับของวงการแพทย์ เพราะนอกจากจะทำการสลายไขมันพร้อมการดูดไขมัน ภายในครั้งแรกที่ทำการรักษา ยังช่วยให้กระชับเนื้อผิวที่หย่อนคล้อยได้นอกจากจะช่วยกำจัดไขมัน คลื่นความถี่วิทยุ ยังกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และการหดตัวของกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อชั้นบางๆ ที่อยู่ในผิวหนังทำให้ผิวหนังทั้งหมดกระชับขึ้น ไม่หย่อนคล้อย อีกทั้งยังทำให้รูปร่างได้สัดส่วนมากยิ่งขึ้น
ข้อดีของการดูดไขมัน Body Tite
-หลังทำการรักษาผู้ป่วยไม่จำเป็นต้องพักฟื้น
-แผลมีขนาดเล็ก เนื่องจากเครื่องมือมีขนาดเล็ก
-ลดอาการเจ็บและการบวมช้ำ จากการดูดไขมัน
-กระชับผิวเรียบเนียนได้โดยไม่เกิดปัญหาผิวเป็นคลื่นหลังการทำ
-ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนในชั้นใต้ผิวหนัง ทำให้ผิวหนังบริเวณที่ทำการรักษายกกระชับผิวเรียบเนียนได้โดยไม่เกิดปัญหาผิวเป็นคลื่นหลังการทำ
การเตรียมตัวก่อนดูดไขมันเหนียง
– ก่อนทำการดูดไขมันต้องแจ้งแพทย์ว่ามีประวัติการแพ้ยาหรือไม่ เป็นสิ่งสำคัญมากเพื่อป้องกันการแพ้ยาระหว่างการดูดไขมัน
– ก่อนทำการดูดไขมันควรมีการตรวจเลือด เพื่อตรวจเม็ดเลือดและเกล็ดเลือด การแข็งตัวของเลือด เกลือแร่ในร่างกาย เพื่อความปลอดภัยของคนไข้เอง
– คนไข้ต้องศึกษาหาข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับกระบวนการดูดไขมัน และความเสี่ยงต่างๆ ศึกษากระบวนการรักษาทั้งตอนดูดไขมันและหลังดูดไขมัน
– ควรวางแผนการพักฟื้นให้ดี หลังการผ่าตัดต้องดูแลแผลเป็นอย่างดี เพราะในช่วงแรกจะมีน้ำเกลือไหลซึมออกมาจากปากแผล แต่ก็เป็นแค่ช่วงเวลา 1-2 วันเท่านั้น
– ปรึกษาแพทย์ก่อนตัดสินใจดูดไขมัน แจ้งความกังวลกับแพทย์ว่าเรากังวลส่วนไหน ทำไมถึงอยากดูดไขมันบริเวณนี้ออก เพื่อประกอบการตัดสินใจของทั้งแพทย์และคนไข้
– คนไข้ต้องเตรียมพร้อมร่างกายก่อนดูดไขมันซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมาก คนไข้ต้องงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อาหารเสริมต่างๆ และยากลุ่มแอสไพริน ก่อนทำการดูดไขมันอย่างน้อยเป็นเวลา 2 สัปดาห์
หลังจากดูดไขมันเหนียง วิธีดูแลตัวเองอย่างไรบ้าง ?
-ควรดื่มน้ำในปริมาณมาก อย่างน้อยวันละ 2 ลิตร
-งดการเคลื่อนไหวร่างกายอย่างรุนแรงเพื่อป้องกันแผลเปิด
-หากเกิดความผิดปกติหลังการดูดไขมัน ให้รีบไปพบแพทย์ทันที
-งดทานแอลกอฮอล์ อาหารหมักดอง รวมไปถึงการสูบบุหรี่เพื่อป้องกันแผลหายช้า
-ควรทำความสะอาดแผล 1-2 ครั้งต่อวัน แผลห้ามโดนน้ำเป็นเวลา 7 วัน ตามคำแนะนำของแพทย์
-หลังจากดูดไขมันแล้วควรพักผ่อนให้เพียงพอ และขยับร่างกายบ้างเล็กน้อย เพื่อป้องกันอาการบวมช้ำ
-งดอาบน้ำในวันที่ดูดไขมัน โดยแนะนำเป็นการอาบน้ำในวันถัดไป และควรแปะพลาสเตอร์กันน้ำทุกครั้งก่อนอาบน้ำ
-ใส่สายรัดหน้าตลอด 24 ชั่วโมงใน 7 วันแรก หลังจากนั้นจึงค่อยลดลงตามความเหมาะสม ตามคำแนะนำของแพทย์
-รับประทานยาตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ทานยาปฏิชีวนะติดต่อกันทุกวันจนหมด ควรรับ
– ทานยาแก้ปวด และยาลดอาการบวม เมื่อมีอาการเท่านั้น
นพ.ธีรศักดิ์ แพทยาดิกุล (หมอยาดี)
Dr.Teerasak Pattayadeekul (Moryadee)
แพทย์สาขาผิวหนัง ศัลยกรรมผิวหนัง/เลเซอร์/ความงาม
– MD.Msc.Phd Dermatology / LASER / Aesthetic Surgery.
– Fellow facial plastic Surgery USA/ Cosmetic Surgery Korea
– American Board Laser-Surgery at Westin diploma at Fort Lauderdale Florida USA
– Diploma of Hair Transplantation by Thai association and Academy of Cosmetic surgery and medicine
พญ.ทวีพร ตรีประภากร
Dr.Thaweeporn Treepraphakorn
แพทย์สาขาศัลยกรรมความงาม/ Laser/ ปลูกผม
แพทย์ อเมริกันบอร์ดปลูกผม
– Fellowship in Cosmetic Surgery/ Korean college of Cosmetic Surgery
– Diplomate American Board of Hair Restoration Surgery/ABHRS
– Certificate Hair transplantation By Korean Society of Hair Restoration Surgery
– Member in association of Aesthetic Anti-aging Surgery,Thailand
– Member of International Society of Hair Restoration Surgery (ISHRS)
– Certificate Liposuction by Korean college of Cosmetic Surgery
สนใจรับคำปรึกษา หรือติดต่อสอบถาม
เมด้าคลินิก 574 ถนน เชียงใหม่-ลำปาง
ต.ท่าศาลา อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ 50000
โทร. 053-230257 , 062-3103798
เปิดทำการ จ-ศ 10.00 – 19.30 น. ส-อา 10.30 – 19.30 น.
FACEBOOK : MedaClinic LINE ID: @medaclinic IG : meda.clinic