นวดหน้าลดเลือนริ้วรอย

กระชับรูปหน้า

เมื่ออายุมากขึ้นจะเริ่มสังเกตเห็นความหย่อนคล้อยของผิวหน้า หลายท่านคงเริ่มมองหาวิธีในการยกกระชับหน้าให้ดูหย่อนคล้อยลดลง เพื่อชะลอความแก่ และทำให้ใบหน้าดูเด็กลง

ในปัจจุบันมีวิธีการยกกระชับหน้าหลากหลายวิธีมาก แล้วเราควรเลือกวิธีการยกกระชับหน้าแบบไหนที่เหมาะกับเรา… ง่ายมากเลยค่ะเพียงแค่เลือกวิธีที่เหมาะสมกับปัญหาที่เรามี โดยอาจมีความจำเป็นต้องทำมากกว่า 1-2 วิธีก็เป็นได้ เนื่องจากแต่ละวิธีจะแก้ไขปัญหาในแต่ละชั้นผิวที่แตกต่างกัน

รูปหน้าไม่เรียวกระชับ บาน ใหญ่ ไม่เข้ารูป ส่งผลให้ดูแก่ก่อนวัย มีวิธีรักษาอย่างไรบ้าง

ต้องดูว่าสาเหตุมาจากโครงสร้างหน้าเดิม หรือความหย่อนคล้อย เพราะบางคน โครงหน้าใหญ่แต่ดูดี หากเกิดจากความหย่อนคล้อย นั่นเป็นสัญญาณของอายุที่เพิ่มขึ้น ใต้ตาและแก้มจะเริ่มห้อย ร่องแก้มปรากฏชัดขึ้น รวมถึงผิวคอที่ไม่ตึงกระชับ

กระชับรูปหน้าด้วยเทคโนโลยี

Thermage เป็นคลื่นวิทยุที่จะไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ และเข้าไปทำลายซากคอลลาเจนเดิม คอลลาเจนที่เกิดใหม่จึงเรียงตัวสายงาม ผิวจึงกระชับขึ้น ทั้งยังกำจัดไขมันส่วนเกินใต้ผิวได้ รูปหน้าจึงดูเล็กลง

Ulthera เป็นเครื่อง Focus Ultrasound สามารถใช้รักษาโรคมะเร็งตับได้โดยยิงรังสีไปทำลายจุดที่ไม่ต้องการ และนำมาประยุกต์ ใช้กับการยกยกกระชับหน้า ด้วยการยิงรังสีเข้าไปถึงชั้น SMAS

Botox เป็นการฉีดสารเพื่อให้กล้ามเนื้อหดตัวใบหน้าจึงดูยกกระชับขึ้น แต่ผลการรักษาจะอยู่ได้ไม่นาน

Hifu (High Infinity Focus Ultrasound) ใช้กลไกเดียวกับ Ulthera แต่แปลงพลังงานเป็นโมเลกุลเล็กๆทำให้ไม่รู้สึกเจ็บ แต่อาจจะต้องทำหลายครั้งจนกว่าจะเห็นผลที่ชัดเจน

สาเหตหลักที่ทำให้รูปหน้าไม่กระชับ

อายุที่มากขึ้น เซลล์ไฟโบรบลาสต์ที่ทำหน้าที่สร้างคอลลาเจนและอีลาสตินเสื่อมลง และทำหน้าที่ไม่เต็มที่ คอลลาเจนที่ตายไปแล้ว จะกลายเป็นขยะที่ตกค้างในผิว ทำให้คอลลาเจนที่เกิดขึ้น เรียงตัวใหม่ไม่สวยงาม
ชั้นกล้ามเนื้อส่วนบนหย่อน ทางการแพทย์เรียกว่า “SMAS” เวลาผ่าตัดดึงหน้า หมอจะเย็บชั้นนี้เข้าด้วยกัน พร้อมเก็บผิวให้เรียบร้อย
กระดูกยุบตัว ส่งผลให้กล้ามเนื้อชั้นที่เคยเกาะบนกระดูกขาดที่ยึดเหนี่ยวและห้อยย้อยลง ใบหน้าจึงไม่เข้ารูปดังเดิม
ไขมันใต้ผิว ตอนอายุน้อยๆ ไขมันจะเกาะอยู่ที่โหนกแก้มเป็นลูกส้ม แต่พอเวลาผ่านไปไขมันจะตกจากโหนกแก้ม ไปอยู่ที่กระพุ้งแก้มและใต้คอ ไขมันบริเวณขมับและใต้ตาจะหายไปจนเกิดร่องใต้ตา

ประโยชน์ของ one thera hifu

ความยืดหยุ่นของผิวเพิ่มขึ้น แลดูมีสุขภาพดีขึ้น
ช่วยกระชับไขมันใต้คาง
ช่วยให้ผิวดูกระชับอย่างเป็นธรรมชาติ
ช่วยลดชั้นไขมันที่แก้มและคาง
ช่วยลดริ้วรอย
เครื่องปลอดภัยและได้มาตรฐาน จัดเป็นเครื่องที่ได้รับการยอมรับและปลอดภัยเป็นอันดับต้นๆ มีโอกาสเกิดผลข้างเคียงได้น้อยมาก
ผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 8-12 เดือน เมื่อเทียบกับวิธีการยกกระชับวิธีอื่น เช่น การฉีดโบท็อกซ์ การฉีดเมโสแฟต
ทำได้หลายตำแหน่ง โดยสามารถเลือกรักษาผิวจากเครื่อง One thera ได้แทบจะทั่วใบหน้าไปจนถึงเนินอก ทำให้สามารถเปลี่ยนแปลงผิวได้หลายบริเวณภายในบริการครั้งเดียว

วิธีการทำงานของ Hifu

Hifu มีหลักการทำงานโดยปล่อยคลื่นเสียงอัลตราซาวด์ความเข้มข้นสูง ส่งลงไปในชั้นผิวหนัง SMAS (Superficial Muscular Aponeurotic System) ทำให้ชั้นไขมัน และชั้น SMAS เกิดการหดตัว เสมือนเป็นการดึงหน้า ซึ่งโดยปกติ Hifu ทั่วไปจะไม่มีโหมด long pulse mode ในการทำงาน

สำหรับ long pulse mode เป็นโหมดที่ใช้คลื่นความถี่ที่สามารถยิงได้ลึกถึงชั้นไขมันใต้ผิวหนัง หรือ( Subcutaneous Tissue ) ซึ่งจะมีการทำงาน 2 แบบ คือ
บริเวณใบหน้า ขอบตา/หน้าผาก ควรใช้ขนาด 1.5mm ความถี่ในการยิง 7Mhz
แก้ม/คอ ควรใช้ขนาด 3.0mm ความถี่ในการยิง 7Mhz
แก้ม/เหนียง ควรใช้ขนาด 4.5mm ความถี่ในการยิง 4Mhz

การนวดหน้าด้วยมือ ดียังไง?

หลายคนอาจจะยังสงสัยว่า นวดหน้าดีไหม ขอบอกเลยว่ามี การนวดหน้ามีข้อดีเยอะแยะหลายข้อ เลยค่ะ เพราะในหนึ่งวันเราขยับใบหน้าในการแสดงอารมณ์ไปมากมาย ทำให้กล้ามเนื้อบนใบหน้าถูกดึงไปดึงมา เกิดเป็นริ้วรอยต่าง ๆ ก่อนวัยได้ การนวดหน้าด้วยมือ หลัก ๆ แล้วจะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือดบนใบหน้า ให้กล้ามเนื้อบนใบหน้าได้ผ่อนคลาย ยิ่งนวดยิ่งลดริ้วรอย แถมยังทำให้เรารู้สึกสดชื่นขึ้นน เหมือนการได้ cool down หลังการออกกำลังกายมาตลอดทั้งวัน แต่เปลี่ยนจากที่ตัวมาเป็นที่ใบหน้าแทนนั่นเองจ้าา

ประโยชน์ของการนวดหน้า

ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดบนใบหน้า
กระตุ้นการทำงานของระบบน้ำเหลือง และขจัดสารพิษ
ช่วยให้สกินแคร์ต่าง ๆ ซึมเข้าผิวหน้าได้ดีกว่าเดิม
ช่วยผลัดเซลส์ผิวที่ตายแล้ว
ช่วยลดสิว และขจัดสารพิษต่าง ๆ ที่ก่อให้เกิดสิวบนใบหน้า
แก้ปวดหัวและบรรเทาความเครียดได้ เพราะได้ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ
ลดอาการหน้าบวมหลังตื่นนอน
ป้องกันริ้วรอยและช่วยลดความหมองคล้ำได้

นวดหน้ายกกระชับได้จริงหรือ

ต้องบอกเลยว่าอาจขึ้นอยู่กับปัจจัยผิวของแต่ละคน ด้วยสรีระใบหน้า กล้ามเนื้อ และความหย่อนคล้อยของผิวในแต่ละคนแต่ละช่วงอายุก็แตกต่างกัน ในวัยที่อายุยังไม่เยอะมาก การนวดหน้ายกกระชับอาจเห็นผลได้ดีกว่าคนที่อายุเยอะแล้วเป็นธรรมดา แต่แน่นอนว่าการนวดยกกระชับใบหน้าจะช่วยให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย เลือดไหลเวียนดี ลดสารพิษ ลดริ้วรอย ทำให้หน้าดูเปล่งปลั่ง มีเลือดฝาด และดูสดใสอ่อนวัยกว่าเดิมได้จริง

ข้อห้าม! ข้อควรระวังในการนวดหน้า

1. ควรล้างมือและทำความสะอาดใบหน้าก่อนการนวดทุกครั้ง เพื่อไม่ให้สิ่งสกปรกติดค้างบนใบหน้า เพราะอาจก่อให้เกิดอาการอักเสบและสิวอุดตันได้

2.ควรเลือกโลชั่น, ครีม, เซรั่ม, น้ำมัน หรือเอสเซนส์ที่เหมาะกับผิว เพื่อผลลัพธ์ที่ดีในการนวดหน้า

3. นวดอย่างเบามือเสมอ ถ้าทำแรงเกินไปจากหน้ากระชับจะกลายเป็นหน้ายับเอาได้ โดยเฉพาะบริเวณที่บอบบางพิเศษอย่างรอบดวงตา

4. ควรหลีกเลี่ยงการนวดหน้าหากผิวอ่อนแอ เช่น เป็นสิวอักเสบ อาการบวมและระคายเคืองจากการแพ้ หรือเกิดอาการอักเสบต่าง ๆ เช่นผิวไหม้แดด เพื่อรอให้ผิวแข็งแรงขึ้นก่อน

5. ในช่วงพักฟื้นหลังทำศัลยกรรมไม่ควรนวดหน้าเด็ดขาด ควรรอให้แผลหายดี 100 % และปรึกษาคุณหมอเพื่อสอบถามระยะเวลาที่เหมาะสมก่อนนะคะ นวดไปก็ไม่ยุบบวมนะ จะยิ่งอักเสบและอาจทำให้แผลปริได้จ้า

การนวดหน้าหรือฝึกโยคะหน้าจะช่วยป้องกันและลดเลือนริ้วรอยได้จริงมั้ย?

คำตอบคือ

ช่วยลดเลือนริ้วรอยได้บ้าง อาจจะลดเลือนริ้วรอยตื้นๆได้ แต่ริ้วรอยลึกๆ ไม่สามารถลดเลือนได้ค่ะ

ปัจจัยของการฝึกโยคะใบหน้าคือ “การหายใจ” ซึ่งการหายใจที่ถูกต้องจะช่วยนำพาออกซิเจนเข้าไปฟอกเลือด ทำให้ผิวพรรณดูเปล่งปลั่ง การฝึกโยคะหน้าเป็นการออกกำลังกายกล้ามเนื้อใบหน้าให้ขยับในทิศทางที่ถูกต้อง และช่วยนำพาเลือด น้ำเหลือง ไปเลี้ยงทุกส่วนมากกว่า ลดเลือนริ้วรอย

ส่วนการนวดหน้าเป็นการกระตุ้นระบบไหลเวียนของน้ำเหลืองและเลือด ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อบนใบหน้า ผิวหน้าจึงดูสดใสและอ่อนวัยขึ้น

สิ่งสำคัญที่สุดของการนวดหน้าและฝึกโยคะบนใบหน้าคือ ความสม่ำเสมอ เช่นเดียวกับการทาครีมบำรุงผิว เราคงไม่สามารถทำเพียงครั้ง สองครั้ง แล้วเห็นผลได้ทันที แต่ต้องใช้ระยะเวลานานพอสมควร ถือว่าเป็นวิธีที่ประหยัด แต่เห็นผลได้ค่อนข้างช้าและต้องขยันทำค่ะ

ส่วนคนที่ไม่มีเวลาหรือรู้ตัวว่าเป็นคนไม่มีวินัยในการบำรุงผิว การทำทรีตเมนต์ผลักวิตามินและคอลลาเจนลงสู่ผิว ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ปลอดภัย ไม่ต้องฉีด ไม่ต้องยิงเลเซอร์ และไม่ต้องผ่าตัด ราคาก็ไม่สูงมากและใช้หลักการเดียวกับการนวดหน้าหรือการฝึกโยคะหน้า คือ กระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและน้ำเหลือง ทั้งยังช่วยเติมวิตามินและคอลลาเจนให้ผิวชั้นลึกโดยใช้คลื่นวิทยุนำทาง จึงให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนกว่าและเป็นอีกทางนึงที่น่าสนใจค่ะ