ออกซิเจนบำบัด Hyperbaric oxygen therapy (HBOT เชียงใหม่)

ออกซิเจนบำบัด Hyperbaric oxygen therapy (HBOT เชียงใหม่) ทางการแพทย์หมายถึง ออกซิเจนบำบัดด้วยแรงดันสูงที่มีความปลอดภัย และให้ผลการรักษาเป็นที่น่าพึงพอใจในระยะเวลาที่สั้นลง โดยใช้ทฤษฎีทางสรีระวิทยา เพื่อเพิ่มปริมาณออกซิเจน 100% ให้กับเซลล์ส่งผลให้เซลล์ต่างๆ ในร่างกายมีการตื่นตัว และทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

HBOT (Hyperbaric Oxygen Therapy) คืออะไร

การบำบัดสุขภาพด้วยการรับออกซิเจนบริสุทธิ์ในปริมาณมากเข้าสู่ร่างกาย โดยใช้เทคโนโลยีอุโมงค์ออกซิเจนคล้ายแคปซูล (Hyperbaric Chamber) ที่มีการปรับความดันบรรยากาศสูง เพื่อให้ร่างกายรับออกซิเจนบริสุทธิ์ได้อย่างเต็มที่

HBOT ช่วยแก้ปัญหาสุขภาพ และโรคเรื้อรังต่างๆ

- ภาวะขาดออกซิเจน ช่วยให้ร่างกายได้รับออกซิเจนมากขึ้น
- ลดอาการบวมซ้ำจากแผลผ่าตัด
- รักษาอาการปวดหัว ปวดศรีษะไมเกรน
- รักษาอาการนอนไม่หลับ หลับไม่สนิท
- ช่วยเสริมประสิทธิภาพ การขึ้นของเส้นผมหลังการปลูกผม
- ช่วยให้เลือดไหลเวียนไปสู่อวัยวะที่ขาดเลือดได้ดีขึ้น

ค่าบริการ ออกซิเจนบำบัด (HBOT)

ประโยชน์ของการทำท ออกซิเจนบำบัด (HBOT เชียงใหม่)

1. ลดอาการเหนื่อยล้าของผู้ป่วย
2. กระตุ้นไขกระดูกให้ผลิตเม็ดเลือดแดงเพิ่มขึ้น
3. เพิ่มประสิทธิภาพของการรักษา ด้วยวิธีเคมีบำบัด
4. ช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อและหลอดเลือด ที่เสียหายจากการฉายรังสี
5. ลดอาการอักเสบและรักษาแผลที่เกิดจากการฉายรังสีและเคมีบำบัด
6. ช่วยยับยั้งการติดเชื้อโรคบางชนิด
7. กระตุ้นการสร้างสเต็มเซลล์
8. เพิ่มประสิทธิภาพของเซลล์เม็ดเลือดขาวในการทำลายเชื้อโรค

ผู้ที่เหมาะแก่การทำออกซิเจนบำบัด

1. ผู้ป่วยเป็นไข้หวัด หรือมีภาวะติดเชื้อ
2. ผู้ป่วยโรคตับอักเสบ เริม งูสวัด
3. ผู้ป่วยโรคมะเร็ง โดยออกซิเจน อะตอมเดียวจะไปเกาะกับผิวของเซลล์มะเร็ง ทำให้เซลล์ถูกกำจัดไปโดยระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย
4. ผู้ที่มีปัญหาภูมิแพ้ ลมพิษ หอบหืด
5. ผู้ป่วยโรคภูมเพี้ยน SLE รูห์มาตอยด์ สะเก็ดเงิน
6. ผู้ที่มีปัญญาเกี่ยวกับระบบไหลเวียนโลหิต เช่นไมเกรน หรือรวมทั้งผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) และผู้ป่วยพากินสันที่เลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอ

การเตรียมความพร้อมก่อนด้วย ออกซิเจนบำบัด

- รักษาความสะอาดทั่วไปของร่างกาย
- ไม่ควรอดนอนหรือออกกำลังกายมากเกินไปมาก่อน
- ผู้ป่วยเบาหวานต้องตรวจน้ำตาลก่อนเข้าเครื่อง
- งดฉีดน้ำหอม ใส่เจล หรือไม่ใช้เครื่องสำอางที่มีแอลกอฮอลล์เพราะเป็นสารนำเชื้อเพลิง
- หากมีการทำแผลอยู่ต้องเลี่ยงการใช้แอลกอฮอลล์มาใช้น้ำเกลือแทน
- ผู้ที่มีฟันปลอมชนิดถอดออกได้ ให้ถอดก่อนเข้าเครื่อง

ข้อควรระวังออกซิเจนบำบัด

ในบางรายอาจพบมีอาการข้างเคียงจากการรักษาได้ ดังนี้ หูอื้อ ตาลาย วิงเวียนศีรษะ อ่อนเพลีย แน่นหน้าอก แสบร้อนบริเวณหน้าอก สายตาสั้นชั่วคราวได้
ส่วนผู้ที่ป่วยโรคปอด มีอาการบาดเจ็บที่ปอด หรือมีอากาศค้างอยู่นอกถุงลมปอด อาจได้รับอันตรายจากการเปลี่ยนแปลงความดันบรรยากาศได้ อาจทำให้เกิดลมรั่วในปอด จึงควรเอ๊กซเรย์ปอด ก่อนการรักษาด้วย เครื่อง HBOT
ส่วนอาการชักมีอาการเกิดขึ้นได้ แต่โอกาสเกิดน้อยมาก มักพบได้ในกรณีที่ความดันเกินกว่า 3 บรรยากาศ ซึ่งไม่ใช่ระดับความดันบรรยากาศที่ใช้ในการรักษาภาวะต่าง ๆ

ประเภทของออกซิเจนบำบัด

1.แก๊สออกซิเจน แก๊สออกซิเจนจะบรรจุอยู่ในถังขนาดพกพาหรือเรียกว่าภาชนะบรรจุที่มีแรงดัน โดยเครื่องผลิตออกซิเจนขนาดใหญ่จะใช้ที่บ้าน ส่วนขนาดเล็กลงมาสามารถพกพาไปนอกบ้านได้ นอกจากนั้น ถังออกซิเจนขนาดเล็กมักใช้ร่วมกับอุปกรณ์เสริม เพื่อให้ใช้งานได้ยาวนานยิ่งขึ้น

2.ออกซิเจนเหลว จะมีความเข้มข้นของออกซิเจนสูงและสามารถบรรจุอยู่ในถังซึ่งมีปริมาณมากกว่าแบบแก๊ส หากทิ้งเอาไว้ไม่ได้ใช้งานในเวลาที่เหมาะสมจะทำให้ระเหยได้ แต่สามารถเติมได้ เหมาะกับผู้ที่ต้องการใช้ออกซิเจนมากหรือต้องเคลื่อนไหวมาก

.เครื่อง HBOT ของเมด้าคลินิก

- เครื่องผลิตออกซิเจน (Oxygen Concentrator) เป็นอุปกรณ์ให้ออกซิเจนจากถังผ่านทางท่อและเข้าสู่ปอดผ่านท่อสายยางทางจมูก หน้ากากหรือท่อที่ต่อเข้าโดยตรงกับหลอดลม ซึ่งการให้ออกซิเจนผ่านทางสายยางเข้าจมูกจะช่วยให้เคลื่อนไหวหรือพูดได้สะดวก แต่จะได้ปริมาณออกซิเจนน้อยกว่าวิธีอื่น ส่วนการสวมหน้ากากจะทำให้ไม่สะดวกทั้งการพูดและการรับประทานอาหาร นอกจากนั้น อุปกรณ์ชนิดนี้พกพาได้ไม่สะดวกเท่าวิธีอื่น ๆ ปัจจุบันนี้แม้จะมีขนาดพกพาแต่ไม่ค่อยเป็นที่นิยม โดยเครื่องผลิตออกซิเจนจะเน้นใช้ในการบำบัดรักษาโรค และมีข้อดีคือราคาไม่แพงและไม่ต้องเติมออกซิเจน
- ออกซิเจนความดันสูง (Hyperbaric Oxygen Therapy) เป็นการบำบัดซึ่งให้ผู้ป่วยอยู่ในห้องที่มีแรงดันหายใจเอาออกซิเจนบริสุทธิ์เข้าไป ซึ่งในห้องนี้จะมีแรงดันบรรยากาศที่สูงกว่าปกติ 3 หรือ 4 เท่า สามารถช่วยเพิ่มปริมาณออกซิเจนให้เข้าสู่เนื้อเยื่อในร่างกายได้เป็นอย่างดี โดยการบำบัดวิธีนี้มักจะใช้ในการรักษาแผล การติดเชื้อที่รุนแรง หรือเมื่อมีฟองอากาศในเลือด อย่างไรก็ตาม การบำบัดวิธีนี้จะต้องใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างมาก ไม่ให้ปริมาณออกซิเจนเข้าสู่ร่างกายสูงเกินไป เพราะจะทำให้เกิดอันตราย เช่น
  - เกิดการบาดเจ็บที่หูชั้นกลาง มีของเหลวไหลซึม หรือเยื่อแก้วหูฉีก เนื่องมาจากแรงดันอากาศที่เพิ่มขึ้น
  - ปอดยุบตัว (Lung Collapse) เนื่องจากความดันที่เปลี่ยนแปลง

- การให้ออกซิเจนจากถัง (Oxygen Cylinders) แพทย์จะให้ใช้ในกรณีที่ผู้ป่วยต้องการออกซิเจนในช่วงระยะเวลาอันสั้น เพื่อบรรเทาอาการหายใจไม่ออกจากการเจ็บป่วย โดยผู้ป่วยจะได้รับออกซิเจนจากหน้ากากหรือผ่านทางท่อสายยาง และระหว่างที่ใช้จะต้องได้รับการตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง และจะหยุดให้ออกซิเจนเมื่อพบว่าออกซิเจนในเลือดกลับสู่ระดับปกติ

กลไกลการทำงาน เครื่อง HBOT เมด้าคลินิก

การบำบัดด้วย Hyperbaric Oxygen Therapy จำลองใต้น้ำลึกระหว่างการรักษา และความดันสูงกว่า 1 บรรยากาศ เพื่อให้ออกซิเจนมีขนาดเล็กลง ทำให้ร่างกายส่งออกซิเจนบริสุทธิ์จำนวนมากเข้าสู่ร่างกายได้ดีขึ้น

เมื่อออกซิเจนเข้าสู่เลือดมากขึ้นจะช่วยให้ระบบการไหลเวียนของเลือดดีขึ้น ออกซิเจนกระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดแดงช่วยให้เลือดไปหล่อเลี้ยงร่างกายได้ดีขึ้น กระตุ้นการสร้างเนื้อเหยื่อ ช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น ลดการเกิดแผลเป็นหลังการผ่าตัด ลดอาการบวม ช้ำ หลังการผ่าตัด แผลหายช้า เนื่องจากแผลเหล่านี้ต้องการออกซิเจนจำนวนมาก ช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่อักเสบรวมถึงผู้ที่มีระบบไหลเวียนเลือดไม่ดี

ยังช่วยชะลอความเสื่อมของร่างกาย อีกทั้งยังช่วยให้เซลล์เม็ดเลือดขาวกำจัดแบคทีเรียและช่วยทำลายหรือยับยั้งการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ต่างๆ

ทำไมต้องเลือกทำ HBOT กับเมด้าคลินิก

- เครื่อง HBOT เป็นการนำออกซิเจนความดันสูงมาบำบัดโรค เป็นการหายใจด้วยออกซิเจนบริสุทธิ์ 100% เข้าสู่ร่างกาย โดยผ่านทางระบบทางเดินหายใจ ภายใต้ความดันบรรยากาศที่มากกว่า 1 ATA จึงทำให้ออกซิเจนละลายเข้าสู่เลือดได้ในปริมาณมาก ช่วยส่งเสริมการรักษาโรคต่างๆ ให้ได้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น
- เครื่อง HBOTของเมด้า เป็นเทคโนโลยีการรักษาที่ทันสมัย ซึ่งถูกพัฒนาให้เอื้อต่อการรักษาโรคต่างๆ ให้ได้ประสิทธิภาพและเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น
- หลังจากบำบัดเสร็จ มีการติดตามผลแพทย์จะทำการประเมินอีกครั้งพร้อมทำการนัดเพื่อการบำบัดครั้งต่อไป
- การทำ HBOT มีความปลอดภัยสูง และอาจช่วยบำบัดอาการที่รบกวนชีวิตประจำวันคุณได้หากทำต่อเนื่องสักระยะ หรือตามที่แพทย์แนะนำ ที่สำคัญคือราคาไม่แพงอีกด้วย